วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ดีหรือไม่ดี ยากที่จะบอก

       ได้รับเรื่องราวดีๆจากจาก Forward mail หลายๆเรื่อง และได้บันทึกเอาไว้อ่านซ้ำยามว่างๆ  มีอยู่เรื่องหนึ่ง น่าสนใจ จึงขอเล่าถ่ายทอดต่อลงในบล็อก แต่ต้องขออภัยที่ตอนบันทึกไม่ได้บันทึกที่มาไว้ด้วย      

        เรื่องมีว่า เมื่อนานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึ่ง พระราชาองค์นี้มีคนสนิทคนหนึ่งที่พระองค์สนิทมากและมักจะพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอในทุกๆที่
        แล้ววันหนึ่ง พระราชาก็ถูกหมาตัวหนึ่งกัดนิ้ว แผลฉกรรจ์มาก พระราชาจึงถามคนสนิทว่า นี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า 'ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก'
        และในที่สุดพระราชาก็ถูกตัดนิ้วและพระราชาก็ถามคนสนิทอีกว่า นี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า 'ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก'  พระราชาโกรธคนสนิทมากที่ตอบคำถามได้แต่ประโยคนี้ประโยคเดียว จึงสั่งให้นำตัวคนสนิทไปกักขังไว้ในคุก
        วันหนึ่ง พระราชาก็ได้เสด็จออกป่าล่าสัตว์ พระองค์ทรงตื่นเต้นมาก แล้วก็มุ่งเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อมารู้ตัวอีกทีก็พบว่า พระองค์ได้หลงทางเสียแล้ว แต่ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายไปกว่านั้น พระองค์ก็ได้พบกับชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแห่งนั้น
        คนป่าพวกนั้น ต้องการจับพระราชาไปบูชายัญ แต่พวกเขาก็พบว่า พระราชานิ้วขาดจึงรีบปลดปล่อยพระราชา เพราะเชื่อว่าพระราชาไม่ใช่มนุษย์ที่สมบูรณ์เลยและไม่เหมาะที่จะนำไปบูชายัญ
        พระราชาจึงตัดสินใจกลับพระราชวังในที่สุด และสุดท้าย พระองค์ก็เข้าใจคำพูดของคนสนิทที่บอกว่า 'ดีหรือไม่ดี ยากที่จะบอก' เพราะถ้าพระองค์มีนิ้วครบสมบูรณ์ พระองค์ต้องถูกฆ่าโดยคนป่าพวกนั้นอย่างแน่นอน
        พระราชาจึงสั่งปล่อยตัวคนสนิทและขอโทษเขา แต่พระราชากลับประหลาดใจเมื่อคนสนิทกลับไม่โกรธพระองค์เลย ในทางตรงข้ามเขากลับบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยที่ท่านขังข้าไว้ เพราะว่าถ้าพระองค์ไม่ขังข้าไว้ ข้าก็จะต้องตามท่านไปในป่าและในเมื่อท่านไม่เหมาะจะถูกบูชายัญ ข้าคงจะถูกนำไปบูชายัญแทนเป็นแน่ 

 
        จากเรื่องที่เล่ามาข้างต้นพอจะให้ข้อคิดได้ว่าได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ไม่มีการสรุปได้อย่างแน่นอนว่า ดี หรือไม่ดี บางครั้งสิ่งที่ดีอาจจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้าย ในขณะที่สิ่งที่เลวร้ายอาจกลายเป็นดีได้ ถ้าเราสนุกสนานหรืออยู่กับมันโดยไม่ไปยึดติดกับมัน โดยคิดเสียว่ามันเป็นสิ่งที่มาสร้างความประหลาดใจให้กับชีวิตของเรา
         อะไรต่างๆ ที่มันเลวร้าย ซึ่งเกิดขึ้นกับเราไม่จำเป็นต้องไปเศร้าเสียใจ ในตอนท้ายมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ถ้าเราเข้าใจได้อย่างนี้ เราจะพบว่าการใช้ชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย

3 ความคิดเห็น:

  1. คิดบวก มองโลกในแง่ดี เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ดีจังเลยค่ะ

    ตอบลบ
  2. มองมุมหนึ่งก็เป็น Positive thinking
    แต่มองอีกแนวหนึ่ง(มองไกลว่าในเรื่อง)เป็นไปได้ ทั้ง
    1. สิ่งร้ายในสถานการณ์หนึ่งให้ผลดีในอีกสถานการณ์หนึ่ง
    2. สิ่งร้ายในสถานการณ์หนึ่งให้ผลร้ายกว่าในอีกสถานการณ์หนึ่ง
    3. สิ่งดีในสถานการณ์หนึ่งให้ผลร้ายในอีกสถานการณ์หนึ่ง
    4. สิ่งดีในสถานการณ์หนึ่งให้ผลที่ดีกว่าในอีกสถานการณ์หนึ่ง
    ในชีวิตคนเราต้องพร้อมที่จะรับได้โดยมีสติและไม่หวั่นไหวใดๆในทุกสถานการณ์

    ตอบลบ
  3. คงต้องมองแบบในดีมีเสีย ในเสียมีดี แบบหยินหยาง

    ตอบลบ