วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

รู้ทันความไม่เที่ยง



รู้ทันความไม่เที่ยง

ทุกสิ่งมี เกิดดับ เรารับรู้
ไม่ตั้งอยู่ คงที่ มีเปลี่ยนผัน
ความไม่เที่ยง ถ้าเรา รู้เท่าทัน
ก็ไม่หวั่น ว่าจะเป็น ไปเช่นไร

ตอนตั้งอยู่ อยู่อย่างไร ให้มีค่า
งามสง่า เหมาะดี ที่ตรงไหน
ก็ให้ดี เด่นงาม ทุกยามไป
ไม่หวั่นใจ กังวลกับ การดับลง

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

ความฝัน ความจริง


ความฝัน ความจริง

เมื่อมีจุดมุ่งหมายอยู่ปลายฟ้า
ก็บุกบั่นฟันฝ่ากว่าจะถึง
ณ เมื่อใดใจจอดทอดคำนึง
จะรู้ซึ้งปลายทางแสนห่างไกล

ทุกคนย่อมมีสิทธิ์จะคิดฝัน
แล้วด้นดั้นตามหาเพื่อคว้าไขว่
อาจฝันค้างทางตันเกินดั้นไป
ถ้าฝันไม่สอดรับกับความจริง.

เส้นใย สายใย


เส้นใย สายใย

หลายเส้นใยรวมกันควั่นเป็นหนึ่ง
เป็นเกลียวซึ่งบ่งบอกออกแน่นเหนียว
จากใยบางรวมเส้นเป็นหนึ่งเดียว
รวมเป็นเกลียวแห่งรักสามัคค
เมื่อเกลียวคลายสายใยก็ไกลห่าง
สายใยต่างร้างกันหันหน้าหนี
ความผูกพันขาดพลันในทันที
เหมือนรักที่ยามไร้สายใยรัก

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

อยู่เป็น

อยู่เป็น 

ท่ามกลางคน หมู่มาก ที่หลากหลาย
ทั้งวุ่นวาย ทั้งดีงาม หลายความเห็น
มีทั้งร้อน ทั้งอุ่นดี ทั้งมีเย็น
ถ้าอยู่เป็น เลือกได้ ในหลายทาง
หาความดี ในท่าม ความร้ายร้าย
ในวุ่นวาย มองให้เห็น เป็นความต่าง
ในความร้อน เย็นก็มา ถ้าปล่อยวาง
เป็นอยู่อย่าง เช่นไรดี อยู่ที่เรา

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

การทำบุญ


การทำบุญ 

       วิธีการทำบุญ  ศัพท์ทางพุทธศาสนาใช้คำว่า "บุญกิริยาวัตถุ" ซึ่งพจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์ อธิบายความหมายของบุญกิริยาวัตถุว่า "สิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ เรื่องที่จัดเป็นการทำบุญ ทางทำความดี"  วิธีทำบุญคือวิธีทำความดี ทำสิ่งที่ทำแล้วได้ชำระความเศร้าหมองเร่าร้อน ทำแล้วได้ผลเป็นความดี ทำแล้วเป็นบุญเป็นกุศล รวมทั้งเป็นการประพฤติดีประพฤติชอบ ทางกายวาจา ที่ทุกคนสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้วัตถุสิ่งของเงินทองก็ทำบุญได้

 บุญกิริยาวัตถุ (หมวด ๓)
           ๑. ทานมัย ทำบุญด้วยการให้
           ๒. สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีลและประพฤติดี
           ๓. ภาวนามัย ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา

 บุญกิริยาวัตถุ (หมวด ๑๐)
         (๑) ทาน คือ ทำบุญด้วยการให้ จะใส่บาตร ให้สิ่งของ ให้ขนม ปันเงินทอง ก็เป็นทาน นอกจากนั้น ให้ใบหน้ายิ้มแย้ม ให้ความเข้าใจ ให้ความช่วยเหลือ ให้หูที่รับฟังความทุกข์เดือดร้อน ให้ที่นั่ง ให้ความรู้ ให้ธรรมะ ฯลฯ ก็เป็นทาน (จะเห็นว่าข้อทานนี้ ยังมีคนจำนวนมากเข้าใจว่าต้องให้เงินให้ทองให้สิ่งขอ งเท่านั้น จึงจะเป็นทานที่ทำแล้วได้บุญ แต่ที่จริงแล้ว การทำทานให้เกิดบุญนั้น ทำได้กว้างขวางกว่าการให้สิ่งของเงินทองมากมายนัก อะไรๆ ก็สามารถหยิบยกมาทำให้เกิด ‘ทาน' ได้แทบจะทั้งหมด)
         (๒) ศีล คือ ทำบุญด้วยการตั้งใจระงับ เว้นและงดสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งทางกายและวาจา เช่น ไม่ทำร้ายใคร ไม่พูดปด ไม่พูดร้าย ไม่ส่อเสียด ไปทำงานตรงเวลาไม่อู้ ไม่ทำอะไรที่จะเดือดร้อนตนเดือดร้อนคนอื่น ล้วนเป็นศีลทั้งสิ้น
         (๓) ภาวนา คือ ทำบุญด้วยการพัฒนาฝึกอบรมทางด้านจิตใจ เช่น การศึกษาเล่าเรียนหรือใคร่ครวญข้อธรรมะ การสวดมนต์ไหว้พระ การทำสมาธิ การเจริญสติ การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
         (๔) อปจายนะ คือ ทำบุญด้วยการมีใจเคารพอ่อนน้อม อ่อนน้อมถ่อมตนกับมารดาบิดา ผู้หลักผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ กราบพระ ไหว้พระเจดีย์พระวิหารด้วยใจเคารพ เป็นต้น
         (๕) เวยยาวัจจะ คือ ทำบุญด้วยการเอาใจใส่ช่วยเหลือมารดาบิดาและผู้อื่นอย ่างเต็มกำลัง ให้บุคคลเหล่านั้นทั้งหลายไม่ต้องกังวลทั้งเรื่องทาง โลกที่ไม่มีโทษและ เรื่องทางธรรม เช่น ช่วยดูแลเรื่องการงาน ดูแลผู้ป่วยไข้ ช่วยทำความสะอาดบ้านช่อง ช่วยงานปฏิสังขรณ์วัด ช่วยงานบุญงานกุศล งานปริยัติปฏิบัติต่างๆ
         (๖) ปัตติทาน คือ ทำบุญด้วยการแบ่งความดีที่ตนทำแล้วให้ผู้อื่นพลอยปลาบปลื้มและได้รับความดีนั้นไปด้วย เช่น การแผ่และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล หรือเมื่อทำบุญหรือความดีใดๆ ก็บอกให้ผู้อื่นได้พลอยปีติยินดี และอนุโมทนาบุญนั้นๆ ไปด้วยกัน
         (๗) ปัตตานุโมทนาทาน คือ ทำบุญด้วยการอนุโมทนาบุญกุศลหรือความดีที่ผู้อื่นทำและบอกเล่าให้ร่วมอนุโมทนาด้วยจิตใจที่พลอยแช่มชื่นเบิกบานและป ีติยินดีไปด้วย
         (๘) ธัมมะสวนะ คือ ทำบุญด้วยการฟังธรรม อ่าน ศึกษาธรรมะ ด้วยจิตใจอ่อนโยนชุ่มชื่น เบิกบานแจ่มใส โดยมุ่งให้เข้าใจและรู้จักบาปบุญคุณโทษ ให้รู้ในสิ่งที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ ตั้งใจเพิ่มพูน และพัฒนาสติปัญญาของตน
         (๙) ธรรมเทศนา คือ ทำบุญด้วยการบอกแนะนำให้ธรรมะอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน แต่มุ่งให้ผู้ฟังได้สติ เกิดศรัทธาและปัญญา รวมไปถึงการแบ่งปันความรู้ทางโลกที่ไม่มีโทษให้กับผู ้อื่น เช่น สอนความรู้ทางการแพทย์ การเกษตร
        (๑๐) ทิฏฐุชุกัมมะ คือ ทำบุญด้วยการตั้งใจทำความคิดเห็นของตนให้ตรงให้ถูกต้องตามธรรม ตั้งใจพัฒนาสติปัญญาให้ตนเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจ ตรงต่อ ความเป็นจริงของธรรมชาติ ตั้งใจไม่ให้ตนเป็นคนมีความคิดเห็นที่ผิด หรือเบี่ยงเบนออกไปจากความเป็นจริง

หมายเหตุ ในแต่ละวิธีจะมีรายละเอียดของวิธีการทำบุญ จะขอยกตัวอย่างในข้อ ทาน หรือทานมัย ดังนี้

         การให้ทาน คือการให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน โดยหมายให้ผู้ได้รับได้พ้นจากทุกข์ แบ่งออกเป็น ๓ อย่างได้แก่
๑. อามิสทาน คือการให้วัตถุ สิ่งของ หรือเงิน เป็นทาน
๒. ธรรมทาน คือการสอนให้ธรรมะ ความรู้ เป็นทาน
๓. อภัยทาน คือการให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ดีกับเรา ไม่จองเวร หรือพยาบาทกัน
         การให้ทานที่ถือว่าเป็นความดีและได้บุญมากนั้นจะประกอบด้วยปัจจัย ๓ ประการอันได้แก่
๑. วัตถุบริสุทธิ์ คือเป็นของที่ได้มาโดยสุจริต ไม่ได้ไปยักยอกมา โกงมา หรือได้มาด้วยวิธีแยบยล
๒. เจตนาบริสุทธิ์ คือมีจิตยินดี ผ่องใสเบิกบาน ไม่รู้สึกเสียดายสิ่งที่ให้ ตั้งแต่ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้
๓. บุคคลบริสุทธิ์ คือให้กับผู้รับที่มีศีลธรรม ตัวผู้ให้เองก็ต้องมีศีลที่บริสุทธิ์

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

เหมือนที่ไม่เหมือน


ทุกคนมีสมองเช่นผองเพื่อน
แต่ไม่เหมือนตรงคิดต่างผิดผัน
ทุกคนต่างมีตามาเหมือนกัน
แต่ตานั้นใช่เห็นเช่นเพื่อนมอง
 
ทุกคนมีหูไว้ใช้ฟังเสียง
แต่หูเสี่ยงฟังไม่เหมือนกับเพื่อนผอง
ทุกคนมีหัวใจตริไตร่ตรอง
แต่หัวใจไม่สอดคล้องของใจใคร
 
เหตุปัจจัยปรุงแต่งแห่งชีวิต
ให้คนคิดเห็นฟังดังที่ไข
ความรู้สึกก็ผิดแผกแตกต่างไป
คนจึงไม่เหมือนกันเช่นนั้นเอง

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

อัตตัญญุตา : การรู้จักตน

อัตตัญญุตา : การรู้จักตน

ดูเหมือนรู้เรื่องราวทุกข่าวสาร
รู้เหตุการณ์ไปทั่วทุกหัวระแหง
รู้สินค้าแบรนด์ใดไหนถูกแพง
รู้ทุกแหล่งซื้อขายไว้จ่ายเงิน
แต่ดูเหมือนไม่รู้"ตัวกู"แท
ใครกันแน่คือ"ตัวกู"ดูผิวเผิน
มิใช่บอกให้หลงรู้"ตัวกู"เพลิน
แต่จะเชิญให้รู้ทั่วที่ตัวเอง

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

จี๊ด จี๊ด

เป็นจี๊ดที่มีนิยามบอกความเล็ก
ถ้าจี๊ดเจ๊กกิมจ๊อก็เรียกขา
ใช่เปรี้ยวบอกนิสัยในสันดาน
แค่จัดจ้านคารมให้สมนาม
ถ้าคนเปรี้ยวคนหวานผสานผสม
จะกล่อมกลมจริงเจียวเปรี้ยวหวานหวาม
ถึงคราวเปรี้ยวเปรี้ยวได้ให้พองาม
ไม่เปรี้ยวตามอารมณ์ข่มพาไป

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

ไขว่คว้า..สิ่งที่เป็นไปได้



สิ่งเลือนลางห่างไกลเกินไขว่คว้า
หากหมายตาตั้งใจเฝ้าใฝ่ฝัน
แค่คิดคว้าก็ยากลำบากครัน
มีหรือวันที่จะได้ดังหมายปอง
เมื่อเป้าหมายที่หวังยังไม่ชัด
ก็ติดขัดตั้งแต่ต้นย่อมหม่นหมอง
เมื่อคิดจะไขว่คว้าถ้าตริตรอง
ควรเลือกของเป็นไปได้ไว้เชยชม

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

LanChung 68

เรื่องของ Blogger : Chankit55

ดอกเอ๋ยเจ้าดอกขมิ้นชัน


ขมิ้นชันในกอชูช่อดอก
เบ่งบานบอกดูดีสีนวลขาว
จกหัวเหง้าใต้ดินดิ้นเป็นดาว
ให้แพรวพราวท่ามกลางกระถางดิน

เปรียบปุถุชนคนดีย่อมมีค่า
แม้เกิดมาอย่างไรในฐานถิ่น
เมื่อเก่งดีย่อมคนได้ยลยิน
ไม่ต้องดิ้นก็เด่นได้เช่นกัน

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

เมื่อกายป่วย-เมื่อใจป่วย

กายป่วย - ใจป่วย


ยามเจ็บป่วยพึ่งยารักษาไข้
รักษาได้เพียงรั้งยื้อสังขา
ให้คงอยู่ต่อไปได้นานนาน
กว่าถึงกาลที่ถึงซึ่งวันตาย
หากใจป่วยป่วยที่ใจใครรักษา
พึ่งหมอยาที่ไหนก็ไม่หาย
โอสถธรรมนำใจให้สบาย
ไข้ใจคลายได้หมดด้วยรสธรรม

ถึงเพื่อนผู้สูงวัย..ใส่ใจสุขภาพ


ถึงเพื่อนผู้สูงวัย


เมื่อเป็นผู้อยู่ในวัยถดถอย
ไม่ควรปล่อยไข้หนักเกินรักษ
แม้สังขารเสื่อมไปตามวัยชรา

ก็ต้องหาหมอบ้างเป็นบางครั้
เช็คความหวานความดันมันเริ่มรุก
ไขมันบุก อย่างอื่นพลอย นับถอยหลัง
แม้การกินการอยู่สู้ระวัง
ก็กลัวพลั้งให้บังเอิญเกินเยียวยา


(เขียนที่ ร.พ.ศิริราช ระหว่างรอผลตรวจเลือด)
๑๕กันย์๕๗

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

บัวผัน : นางกวัก


ม่มีใครร้องเรียกพร่ำเพรียกหา
ไม่มีใครส่งข่าวมาว่าคิดถึง
ไม่มีใครไหนย้ำบอกคำนึง
ไม่มีใครซาบซึ้งซึ่งกลอนเรา

มีแต่บัวสวยสล้าง"บัวนางกวัก"
ชูช่อทักทายแย้มแฉล้มเฉลา
เรียงลดหั่นกันทักกวักเบาเบา
ปลอบคนเหงาที่ไม่หงอย..ไม่คอยใคร

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

เข็มไม่แหลมคม
















เข็มช่อนี้มิแหลมคมสมชื่อเข็ม
จะเติมเต็มอย่างไรก็ไร้ผล
ก็คล้ายคำทำนองชื่อของคน
ไม่บอกผลพฤติกรรมทำนองนาม
คมปัญญาคมคารมคมความคิด
จรุงจิตจรัสจ้าน่าเกรงขาม
ย่อมแหลมคมสมค่าสง่างาม
บอกนิยามแหลมคมที่สมจริง

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

รอยในใจ รอยในน้ำ


หลายคนคงเคยเก็บความเจ็บช้ำ
มาตอกย้ำแผลใจจึงไม่หาย
สร้างรอยใจให้ขุ่นและวุ่นวาย
เหมือนน้ำที่กระจายไม่รู้จาง
ถ้าสะสมความเจ็บเก็บไว้มาก
ใจจะครากทุกข์อยู่ไม่รู้สร่าง
ถ้ารู้จักสงบจิตคิดปล่อยวาง
ทุกข์จะห่างหายไปจากใจเรา

คลื่นลูกใหม่


พริ้วคลื่นโลมลูบไล้หาดทรายกว้าง 
แล้วค่อยจางรางเลือนไปเหมือนฝัน
คลื่นลูกใหม่ไล่มาไม่ช้าพลัน 
ไล่ตามทันลูบทรายคล้ายคล้ายเดิม
เป็นเช่นนี้และเช่นนั้นวันแล้วเล่า 
คลื่นลูกเก่าหายไปลูกใหม่เสริม
ลูกใหม่กว่ามาแรงแซงซ้ำเติม 
จบและเริ่มเช่นนี้ชั่วนิรันดร์


เหยื่อ



หลายเรื่องราว ที่ผ่าน ลานชีวิต
หลอกให้ติด ยึดอยู่ ไม่รู้สึก
หากเห็นธรรม ส่องเหมือน เตือนสำนึก
ช่วยให้ตรึก ตรองเห็น ความเป็นจริง
กามกินเกียรติ คือตัวการ ให้พาลหลง
ยื้อยุยง ให้เสาะหา มาทุกสิ่ง
ถ้ารู้จัก ปล่อยละ เลิกประวิง
ก็ปลดทิ้ง เปลื้องทุกข์ ได้สุขใจ

อยาก


อยาก

เพราะหมายมาดปรารถนาจึงคว้าไขว่
เพราะอยากได้จึงดิ้นรนเสาะค้นหา
เพราะอยากมีจึงตั้งใจให้ได้มา
เพราะอยากเป็นจึงตั้งหน้าหาหนทาง

ทุกความอยากทั้งผองแท้กองทุกข์
ที่เคลือบสุขล่อให้หลงไม่สร่าง
เมื่อใดที่ความอยากลดปลดระวาง
ก็จะห่างจากทุกข์พบสุขแท้


ชาญกิจ ชอบทำกิจ

จับภาพมาใส่กลอน

1. สัญญลักษณ์หลักธรรม




สัญญลักษณ์หลักธรรมอันล้ำค่า
สงบสง่างดงามในความหมาย
พุทธธรรมคำสอนขจรขจาย
เมื่อธรรมถ่ายโยงใยถึงใจคน



2. สงบ สมถะ

สมถะสงบก็พบได้
ในเมื่อใจรู้จักหยุดพักฝัน
รู้ชีวิตจากความจริงทุกสิ่งอัน
ก็คือวันซึ่งมีธรรมนำชีวิต



3. บัวสามดอก

บัวสามดอกบอกสามวัยเหมือนนัยยะ
เป็นสัจจะของชีวิตลิขิตขาน
เมื่อออกดอกตูมเต่งแล้วเบ่งบาน
ไม่ช้านานก็ร่วงหล่นเช่นคนเรา



4. ของคู่กัน

เป็นคู่กันย่อมเห็นว่าเป็นคู่
เคียงกันอยู่จนกว่าถึงคราหล่น
ต้องพรากกันตามกาลไม่ทานทน
แล้วแต่ผลไหนหน่วงร่วงก่อนกัน



5. ดาวเรือง

เป็นดาวที่มิใช่ดาวอันพราวแสง
เป็นดาวแห่งผืนดินในถิ่นที่
เป็นดาวบอกนิยามแห่งความดี
เพราะดาวนี้นั้นหรือคือดาวเรือง



6. เฟื่องฟ้า

โอ้เฟื่องฟ้าผกากิ่งอย่าทิ้งที่
เดิมเจ้ามีต้นรากมาจากไหน
ก่อนจะเชิดชูช่อชันอันอำไพ
จำได้ไหมว่าต้นรากมาจากดิน



7. ผีเสื้อ

ไม่ใช่ผีแต่ทำไมได้ชื่อผี
เสื้อไม่มีแต่มีเสื้อมาเจือให้
เป็นผีเสื้อโบยบินทุกถิ่นไป
มิสนใจใชื่อผีที่เรียกกัน



8. ว่าง

บนเส้นทางว่างเปล่าดูเหงาเงียบ
ยะเย็นเยียบยามใจเกิดไหวหวั่น
ใจจะเปลี่ยวถ้าใจไม่รู้ทัน
รู้ว่านั่นมีสงบให้พบพาน



9. วันใหม่

เมื่อมีมืดมีค่ำมีย่ำรุ่ง
ก็จรุงด้วยแสงแห่งวันใหม่
เฉกชีวิตมีทุกข์สุขคลุกเคล้าไป
ต้องทำใจให้เห็นเป็นธรรมดา



10. ดอกหญ้า

แม้มิใช่ดอกฟ้าบุปผาสวรรค์
มิใช่พันธุ์ดอกไม้งามมีนามหรู
เป็นเพียงไม้ในป่าร้างข้างคันคู
แต่กล้าชูชันช่ออย่างทรนง



11. ร่วง

ถูกเขาทิ้งหรือทิ้งเขาจนเฉาแห้ง
กลางลมแล้วแดดกล้าท่าระโหย
หรือถึงวันดอกดวงจำร่วงโรย
เป็นไปโดยกาลเวลามาพรากกัน



12. มืด สว่าง

มีความมืดในท่ามความสว่าง
มีความห่างในความสนิทสนม
มีความด้อยใความดีที่ชื่นชม
มีทุกข์ตรมในสิ่งสุขคลุกเคล้ากัน



13. เล็บครุฑ

ใช่เพราะครุฑฉุดคร่ากากีสาว
ทิ้งเรื่องราวรอยเล็บไว้เหน็บไหน่
เป็นเล็บครุฑคงค่าคุณสมุนไพร
แก้ร้อนในที่ร้อนได้ผ่อนคลาย



14. บัวบก

ไม่ใช่บัวแล้งน้ำตามคำว่า
เพียงบัวมาอยู่ดินเป็นถิ่นที่
ให้คนเก็บเอาคุณค่าบรรดามี
จากบัวนี้เป็นผักซึ่งประหนึ่งยา



15. อยู่กับปัจจุบัน

สิ่งที่เป็นวันวานก็ผ่านพ้น
สิ่งกังวลข้างหน้ามาไม่ถึง
สิ่งที่เป็นปัจจุบันนั่นคำนึง
คือสิ่งซึ่งดีงามตามเวลา



16. จำปูน

ดอกจำปูนเบ่งบานที่ลานป่า
โชว์กลีบหนาโชยกลิ่นระรินหอม
ไม่ต้องเสริมเติมกลิ่นสีก็ดีพร้อม
เป็นพยอมหอมสวยด้วยตัวเอง



17. อาศรมลุงชาญ

นี่คือหนำนี่คือเรือนที่เหมือนกุฏิ
ได้พักหยุดได้พึ่งพาได้อาศัย
ได้หลบแดดได้หลบฝนคนสูงวัย
บ่งบอกนัยอยู่เยี่ยงอย่างเพียงพอ



18. วัยรุ่น(ดึก)

ดูก้มหน้าท่าทางอย่างวัยรุ่น
ที่หมกมุ่นไลน์เฟซเป็นเหตุผล
แต่ค้นหาข้อสงสัยในใจตน
หนีไม่พ้นคุณกูเกิ้ลค้นเพลินดี



19. สงบ สงบ

เคยเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและว้าเหว่
ทุลักทุเลฝ่าเรื่องร้ายก็หลายหน
ดูเหมือนแกร่งทรหดและอดทน
แต่ผ่านพ้นได้สงบเย็นเมื่อเห็นธรรม



20. เพียงพอก็พอเพียง

เป็นอยู่เท่าที่เห็นเหมือนเป็นอยู่
หนาวร้อนรู้ทั้งทุกข์สุขทุกสถาน
ไม่หลงสุขไม่กลัวทุกข์มารุกราน
จิตชื่นบานด้วยยินดีกับที่เป็น



กุหลาบร่วง


กุหลาบร่วง

จะสดใส สุดสวย ด้วยธรรมชาติ
หรือปรุงแต่ง แต้มวาด สีอาจหรู
แรกพิศผาด งามตา ช่างน่าดู
สัมผัสรู้ ด้วยตาใจ ชวนให้ชม
เมื่อพิศลึก ตรึกเห็น ก็เช่นนั้น
มิใช่มัน มั่นคงด้วย ความสวยสม
ไม่นานนัก จักร่วงพรู สู่โคลนตม
แล้วจะจม หายไป ในไม่นาน

ชาญกิจ ชอบทำกิจ

สายลม แสงแดด


..สายลม แสงแดด...

สายลมพริ้ว พรมผ่าน เป็นม่านเสียง
แดดอ่อนเพียง โอบดิน จวนสิ้นแสง
ท้องฟ้าขรึม ครึ้มมัว สลัวแรง
สายน้ำแห่ง หัวใจ ยังไหลริน
เมื่อความรัก เข้าใจ ในเรื่องรัก
มิใช่จัก เพื่อใคร่ ให้ถวิล
สมภูมิรู้ คู่ภูมิธรรม นำในจินต์
ก็ไม่สิ้น สลายวับ กับแดดลม

ชาญกิจ ชอบทำกิจ
๑๖.๐๐ ๓๐สิงห์๕๗

ชาญกิจ 68


เมื่อวันอายุครบ 68 ปี

เมื่อเลยวัย ไขว่คว้า ค้นหาฝัน
เมื่อเลยวัน ที่ตาม หาความหมาย
เมื่อเลยผ่าน กาลเวลา ที่ท้าทาย
ก็อยู่อย่าง เรียบง่าย สบายใจ
ทั้งหลายร้อน หลายหนาว ที่ก้าวผ่าน
สร้างภูมิต้าน ทานมั่น ไม่หวั่นไหว
ทุกความจริง ที่เห็น ความเป็นไป
กลั่นกรองให้ แค่พบ สงบพอ

ชาญกิจ ชอบทำกิจ

ปาก


ปาก

เมื่อสื่อสารผ่านปากหากไม่คิด
ก็อาจผิดข้อเท็จจริงสิ่งข่าวขาน
ทั้งสิ่งควรไม่ควรชวนระราน
ส่งเสียงพาลไปทั่วไม่กลัวใคร
ถ้าปากดีมีไว้ใช้ให้คุ้มค่า
สื่อวาจาด้วยเรื่องดีที่ควรไข
ประโยชน์สู่ผู้ฟังทุกครั้งไป
บอกเนื้อในเจ้าของปากมาจากคำ

ชาญกิจ ชอบทำกิจ

คิด..อัตตา


..คิด..อัตตา..
ถ้าคิดแต่ในวังวนที่ตนคิด
ก็คงติดในวังวนที่ตนเห็น
ถ้าเปิดหูเปิดตามากกว่าเป็น
ได้ประเด็นมากมีที่ช่วยคิด
เพราะอัตตาคือตัวกูรู้กว่าเพื่อน
คิดไม่เหมือนตนเห็นก็เป็นผิด
ถ้าปล่อยให้อัตตามารอนริด
ก็เหมือนปิดกั้นตนวนเหมือนเดิม
ชาญกิจ ชอบทำกิจ