วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทำไมฉันไม่ก้าวหน้าเหมือนเขา

         ช่วงนี้ไม่มีบรรยากาศให้ขีดๆเขียนๆบทร้อยกรอง จึงขอนำเอาเรื่องดีๆจาก Forward mail ซึ่งเก็บไว้หลายปีแล้ว มาขยายต่อในบล็อกนี้ ด้วยความเคารพและขอบคุณผู้เป็นเจ้าของต้นฉบับ  คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่านตามควร  
         เรื่องมีอยู่ว่า

         พงษ์ศักดิ์ และ สมศักดิ์ เป็นคนจังหวัดเดียวกัน เกิดปีมะแมด้วยกันเรียนจบปริญญาตรีสาขาเดียวกันจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ทำงานอยู่ที่บริษัทขายสินค้าแห่งเดียวกัน ช่วงเวลาการทำงานก็ไม่ต่างกันเท่าใดนักทั้งสองคนมีความขยัน ตั้งใจในการทำงานเหมือนกัน
          แต่ห้าปีต่อมาพงษ์ศักดิ์ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆจนได้เป็นถึงผู้จัดการแผนก แต่สำหรับสมศักดิ์นั้นยังเป็นพนักงานขายต๊อกต๋อยเหมือนเดิมดูเหมือนทุกคนจะลืมไปว่ามีเขาอยู่ด้วย
         จนวันหนึ่งสมศักดิ์ซึ่งหมดความอดทนได้เข้ามาขอยื่นใบลาออกกับผู้จัดการ เหตุผลก็คือ เขาได้ทำงานหนัก แต่ไม่เคยประจบประแจงเจ้านายหรือเป็นคนคุยโวโอ้อวดผลงานของตนเขาจึงไม่เคยอยู่ในสายตาของผู้จัดการในขณะเลื่อนตำแหน่งหรือได้ทำงานสำคัญเลย
          เมื่อผู้จัดการฟังสมศักดิ์ พูดจบ เขาทราบว่า สมศักดิ์นั้นทำงานหนักจริง แต่สมศักดิ์ขาดคุณสมบัติไปข้อหนึ่งถ้าพูดไปตรงๆ อาจทำให้สมศักดิ์ไม่สบายใจ ดังนั้น เขาจึงพูดว่า
          "สมศักดิ์ บางทีฉันอาจจะตาลายดูไม่ทั่วถึงนะ เอาอย่างนี้แล้วกัน ให้เธอไปที่ตลาดดูว่าวันนี้ที่ตลาดมีอะไรมาขายบ้าง"
           สมศักดิ์ รีบขับรถไปตลาดแล้วก็กลับมารายงานผู้จัดการว่า "ผมพบว่ามีชาวนาชายคนหนึ่ง ตัดผมลั้น มีแผลเป็นที่หน้าผาก ท่าทางเป็นคนอิสาน อายุประมาณ ๕๕ ปี ใช้ม้าสีน้ำตาลตัวเมีย ลากรถมาขายถั่วลิสงครับ"
           ผู้จัดการถาม "เขามีถั่วกี่กิโล"
           สมศักดิ์ ก็ขอขับรถกลับไปดูใหม่สักครู่ก็กลับมา รายงานว่า "มีถั่วลิสงยังไม่ต้ม 40 กว่าถุงปุ๋ย น้ำหนักถุงละประมาณ 20กิโลกรัมครับ"
           ผู้จัดการจึงถามอีกว่า "เขาจะขายถั่วราคากิโลละเท่าไหร่"
           สมศักดิ์ ก็จะขอขับรถกลับไปดูใหม่
           แต่ผู้จัดการได้เรียกให้เขาหยุดและให้เขาพักผ่อนดูโทรทัศน์ฟุตบอลล์โลกสักครู่ จากนั้นเขาก็ให้คนไปเรียก พงษ์ศักดิ์ มาพบต่อหน้าสมศักดิ์ แล้วพูดว่า "คุณพงษศักดิ์ ให้ไปตลาดนะ ดูว่าวันนี้มีอะไรมาขายบ้าง"
           ครึ่งชั่วโมงต่อมา พงษศักดิ์ ก็กลับมาแจ้งว่า "ที่ตลาดมีชาวนาชราคนหนึ่งนำถั่วลิสงเกรดสองมาขาย มีอยู่ประมาณ 40 กว่าถุง  รวมแล้วหนักราว 800 กิโลกรัม ตรวจคุณภาพถั่วแล้วใช้ได้ดี เขาขายปลีกถุงละ 300 บาท  แต่ถ้าเราซื้อทั้งหมดเขาจะขายให้ถุงละ 230 บาท  ซึ่งถ้าจะเอาทั้งหมดจริงๆ น่าจะต่อรองลงได้อีกถุงละสิบบาท  เราสามารถนำไปขายต่อให้ร้านของชำฝั่งตรงข้ามได้ถุงละ 280 บาท มีกำไรทันที 2400 บาทครับ"
           จากนั้นพงษ์ศักดิ์ ก็นำตัวอย่างถั่วลิสงหนึ่งกำมือให้ผู้จัดการดู แล้วพูดต่อว่า "พรุ่งนี้เขาจะนำถั่วแบบเดียวกันอีก 1 คันรถมาขายที่นี่อีก ถ้าท่านเห็นชอบผมจะไปหาร้านที่อื่นในเมือง ให้รับซื้อไว้ล่วงหน้าดีไหมครับ"
           สมศักดิ์ซึ่งยืนอยู่ข้างๆเริ่มหน้าแดง เขาขอร้องให้ผู้จัดการคืนใบลาออกให้กับเขา ตอนนี้เขาเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างตัวเขาเองกับพงษ์ศักดิ์แล้ว

สรุปความว่า
           คนที่จะประสบความสำเร็จก้าวหน้าได้นั้นที่จริงแล้วไม่มีเทคนิคอะไรมากนักหรอก แต่เขาจะมีความคิดที่ไกล ลึกซึ้ง และก้าวหน้ากว่าคนอื่นเท่านั้นเอง
           การมีความคิดที่ก้าวไกล และทำงานให้ทันต่อสถานะการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น