วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2567

เดิน


 ยังพอใจ เดินทาง ไปข้างหน้า

ตราบเวลา ที่เหลือ ยังเกื้อหนุน

ใช้ปัญญา สติธรรม นำเป็นทุน

ได้ก่อบุญ บังอบาย ทุกรายทาง


เพื่อมองเห็น สรรพสิ่ง เป็นจริงแท้

ทุกตัวแปร ทุกปัจจัย ไม่กีดขวาง

ลดส่วนด้อย ถอยเขลา ให้เบาบาง

ให้สว่าง ในสิ่งเสริม เพิ่มปัญญา


คงเดินทาง ตามวัย ไปเรื่อยเรื่อย

ยังไม่เหนื่อย ไม่ท้อ ส่อปัญหา

เมื่อสมอง และความจำ ยังธรรมดา

ก็ปรารถนา สาระดี ที่ค่าควร

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2567

ไม่รอ


 ใจยังรอ จังหวะ ที่จะรัก

แม่สื่อชัก ชวนให้ ก็ไร้ผล

รอรักจริง รักจัง หายกังวล

รอเมื่อคน เราสอง ต้องใจกัน


ได้แต่รอ จนเวลา หมดหน้าตัก

อดเจอรัก สมวัย แต่ไม่หวั่น

เพราะเป็นคน ใฝ่รักดี ทุกวี่วัน

จึงแบ่งปัน รักไป ให้หลายคน


เอาเมตตา กรุณา มาใส่จิต

ให้สิ่งคิด เจตนา นำพาผล

เพื่อทุกผู้ เป็น อยู่ มี สิ่งดีดล

ให้เปี่ยมล้น สิ่งที่ปอง ตามต้องการ

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

ไม่รัก แต่...?


 เมื่อรักกัน ไม่ได้ ก็ไม่รัก

จะอกหัก กี่หน ก็ทนไหว

เมื่อใจยัง ไม่ต้อง สนองใจ

จึงต้องไม่ รอรัก อีกสักรอ


ไม่ต้องหา หนทาง ระหว่างฝัน

ไม่ต้องปัน แบ่งใจ แม้ใครขอ

ไม่ต้องมี รักมากล้น จนเกินพอ 

ไม่ต้องต่อ สายใย ผูกใจกัน


ที่ตั้งใจ ไม่รัก อย่างหนักแน่น

ยิ่งยากแสน สุดวิตก จิตผกผัน

ที่แท้ใจ ไม่เคยห้าม ความผูกพัน

นานกี่วัน ก็พอใจ ที่ได้รัก

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2567

ความในใจ


 มุ่งเขียนเหมือน เตือนใจ ให้ครองสติ

รู้ตรองตริ คิดเองเป็น ไม่เน้นถาม

ใช้ข้อมูล ถูกต้องล้วน ครบถ้วนความ

คิดเห็นตาม ที่ควรเป็น เน้นจริงแท้


ก่อนความคิด จะจาง และห่างหาย

จารึกลาย เป็นเนื้อถ้อย แทนรอยแผล

สิ่งเคยคิด บอกอะไร ในดวงแด

จึงเพียงแค่ ให้แลเห็น ได้เด่นชัด


แม้แง่งาม ความคิดนึก ไม่ลึกซึ้ง

แต่ก็พึง เป็นไปตาม ความถนัด

ที่สรรถ้อย ร้อยความ ตามกรองคัด

เป็นกลอนจัด ว่าเรียบง่าย สบายใจ


ขอบคุณที่ ปิยมิตร ติดตามอ่าน

เหมือนเสริมสาน สร้างแรง แห่งคำไข

ขอให้เจริญ รุ่งเรือง ต่อเนื่องไป

สุขสดใส ใจชื่นบาน นานนานครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567

พล็องๆ


 ใหญ่ไม่จริงแต่ทว่าทำท่าใหญ่

ไม่จริงใจทำผูกมิตรแบบอิจฉา

ไม่ได้รักแต่แสร้งเสเล่ห์มารยา

เอือมระอามาแสดงแสร้งว่ารัก


แต่งจนสวยแต่ในทีนั้นขี้เหร่

เที่ยวเกเรทำเป็นดีมียศศักดิ์

เหมือนนักบุญมากแรงคนแช่งชัก

เป็นนางยักษ์แฝงตนเป็นคนงาม


พฤติกรรมอำพรางสร้างจริต

จะคายพิษแก่ชนมากล้นหลาม

หากหลงเล่ห์ลวงเลศกับเหตุทราม

จะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ให้รักเป็นหลักนำ


 ภายนอกครึ้ม แต่ภายใน ใสสดหวาน

ปรากฏการณ์ แห่งรัก ชักนำส่ง

เป็นสัญญาณ หวานชื่น ว่ายืนยง

เพราะใจจง มอบให้รัก เป็นหลักนำ


ณ ยามใด กายหรือจิต ผิดปกติ

ยังตรองตริ สติขาน รักหวานฉ่ำ

เอื้อนเอ่ยถ้อย มธุรส กำหนดคำ

มิปล่อยให้ ใจตกต่ำ ด้วยคำพาล

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ปริศนาในใจ


 ถ้าไม่ใช่ เนื้องาน กลการศึก

คิดตื้นลึก เช่นไร ได้รู้เห็น

ไม่เคยคิด คาดว่า จะมาเป็น

หลอกประเด็น ให้เชื่อ ว่าเนื้อแท้


ถ้าไม่ใช่ จะอย่างไร ต้องไม่ใช่

แล้วเหตุใด เหมือนเน้น ให้เห็นแผล

หรือมีเหตุ เลศนัย ให้ต้องแปล

จะยอมแพ้ ก็มิใช่ เพราะไม่ควร


ไม่ต้องตอบ แต่พฤติกรรม ทำให้ชัด

ยังยืนหยัด หรือค่อนจัก กระอักกระอ่วน

อุดมการณ์ ได้หักเห จึงเรรวน

พึงทบทวน ให้เห็น ความเป็นจริง

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ลดอยาก




 ยามกายหิว ก็พึ่งพา เรื่องอาหาร

รับประทาน เพื่อประทัง ยังชีพไหว

กินแค่อิ่ม เพื่อพลังพอ ก้าวต่อไป

โดยจะไม่ กินเพลิน เกินจำเป็น


ยามใจหิว กระหาย มักหลายเรื่อง

สิ่งสืบเนื่อง ความอยาก ยากรู้เห็น

เพราะใจอยาก ไม่จบ ครบประเด็น

จะยากเย็น หากสนอง ใจต้องการ


ถ้าให้ใจ ลดอยาก ไม่มากเรื่อง

ทุกอย่างเนื่อง แวดวง แห่งสงสาร

ตัดต้นเหตุ แห่งอยาก อาจยากนาน

แต่ก้าวผ่าน กองกิเลส เหตุแห่งทุกข์

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567

มุมมอง

 


เมื่ออยู่ใน อารมณ์ สมมุติสุข

ก็สนุก แบบสมมุติ มนุษย์ฝัน

หัวใจปริ่ม อิ่มปลื้ม ลืมคืนวัน

ทุกสิ่งอัน อบอุ่นไอ ละไมละมุน


เมื่ออยู่อย่าง ธรรมดา เห็นสาระ

กับจังหวะ ชีวิตที่ มีเปลี่ยนหมุน

ทั้งดีร้าย หลายปม ขาดสมดุล

ต้องยืดหยุ่น ปรับตาม ความเป็นไป


เมื่ออยู่กับ มองการ ผ่านอนาคต

อาจปรากฏ หลายอย่างที่ ดีสดใส

หรืออาจแย่ แหลกเหลว เหนือเปลวไฟ

เป็นฉันใด ก็ตามแรง แห่งจินตนาการ


เป็นเพราะจิต คิดเห็น เป็นอย่างนั้น

มองยาวสั้น ไกลใกล้ ได้แก่นสาร

ขึ้นอยู่กับ มุมมอง ส่องนานนาน

เพื่อให้ผ่าน ทุกวิถี ที่เป็นจริง

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2567

เปลี่ยนความเหงาให้เป็นความสงบ

 

เปลี่ยนความเหงา เป็นสงบ สยบร้อน

ดับไฟฟอน แห่งกิเลส เหตุตัณหา

ลดความอยาก มากเรื่อง ต่อเนื่องมา

เสริมคุณค่า การเป็นอยู่ อย่างรู้ตน


รู้ที่มา และที่ไป ในอนาคต

ไม่หนีกฎ ไตรลักษณ์ ประจักษ์ผล

มีเจริญ ร่วงโรยสู่ ทุกผู้คน

หลีกไม่พ้น ชนทั้งผอง จะต้องพบ


ใช้ความคิด สติปัญญา พิจารณารู้

ที่เป็นอยู่ ทำอย่างไร ให้ใจสงบ

ได้ก้าวผ่าน ปราการทุกข์ แล้วสุขครบ

ทุกอย่างจบ เมื่อใจพิสุทธิ์ หยุดวุ่นวาย

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เริ่มหลักที่ ๗๙


 เจ็ดสิบเก้า ก้าวหน้า  พาชีวิต

ปรับจริต ให้ขยับ ปรับตัวใหม่

ที่ผ่านมา มิได้ปล่อย ลอยผ่านไป

แต่เก็บไว้ ในส่วนที่ ดีงดงาม


ยังมีแรง แกร่งกล้า เดินหน้าต่อ

แข็งแรงพอ ก็ก้าวไป ไม่หวั่นหวาม

ไม่เกรงใจ ภัยชรา มาทาบทาม

เล่นบทตาม ธรรมชาติ ไม่ขาดเกิน


วันเดือนปี เพิ่มอย่างไร ก็ให้เพิ่ม

เพียงแค่เสริม ให้ยืนหยัด ไม่ขัดเขิน

ถ้าเติมใจ ให้มั่นคง ไม่หลงเพลิน

พร้อมก้าวเดิน ด้วยธรรม นำทางตน


ได้แก่อย่าง สงบเงียบ และเรียบง่าย

ไม่เสียดาย เวลาผ่าน  กาลส่งผล

ให้สังขาร โรยชรา  ธรรมดาคน

มีเหี่ยวย่น ยามสูงวัย ที่ใกล้ชรา


เจ็บสิบเก้า สง่าสงบ สยบร้อน

ดับไฟฟอน กองกิเลส เหตุตัณหา

รู้เท่าทัน สรรพเหตุ แห่งเวทนา

รู้ธรรมดา ธรรมวิถี ของชีวิต

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สูงวัย


 ทำชีวิตที่สูงวัยเต็มใจสุข

ให้สนุกตามที่ยังมีสิทธิ์

พาตัวตนพ้นสาระขยะพิษ

ทำกายจิตให้รู้อยู่อย่างเย็น


พยายามให้แกร่งกล้าสมอายุ

มองให้ลุสาระธรรมความรู้เห็น

ทุกอย่างเป็นปัญหาธรรมดาเป็น

เลือกประเด็นที่จะหลีกหรือปลีกตัว


พิจารณาสิ่งผูกมัดกำจัดกรอบ

ที่หมายครอบยึดติดให้คิดมั่ว

ตัดทุกเหตุที่ส่งผลให้ตนกลัว

ทุกความชั่วต้องขจัดตัดออกไป


ไม่หวั่นกลัวตัวตนผจญทุกข์

เพียงทันสุขเป็นอยู่มีตรงที่ไหน

ทั้งทางโลกทางธรรมย้ำบอกไว้

จึงต้องไม่ให้ห่างสุขแล้วทุกข์ฟรี


เมื่อสูงวัยใจแกร่งเข้มแข็งกล้า

ไม่นำพาสืบเนื่องเรื่องศักด์ศรี

ผู้สูงวัยใจสว่างสร้างบารมี

ด้วยกรรมดีที่เอื้อเพื่อบุญแท้

ภูเขา -ทะเล


 

บางครั้งเดินคนเดียวเสียวความคิด

กลัวแผลงฤทธิ์พาใจให้ไขว้เขว

เดินเหนือเขื่อนแต่พาออกนอกทะเล

เพราะความเหว่หว้าหวิวปลิวลอยไป


ทำปัญญาหล่นหายไปในเกลียวคลื่น

กับเสียงครืนทะเลครางอย่างหมองไม้

ได้กลับมาเพราะคนงามตามเหนี่ยวไว้

แล้วปล่อยให้เดินเปลี่ยวอย่างเดียวดาย

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

หลงรูป


 เด็ดดอกไม้ ด้วยสายตา เอามาให้

พร้อมหัวใจ จางจาง กลางรอยฝัน

ใช้น้ำค้าง ต่างดอกรัก ปักแจกัน

เอาลมฟั่น เกลียวใจ มิให้คลาย


เพียงแอบมอง เหมือนว่า จะกล้ารัก

ส่งใจทัก คนงาม สื่อความหมาย

จะค่ำเช้า กลางวันเย็น ไม่เว้นวาย

เพียงทักทาย ด้วยจิต คิดไปไกล


มองด้วย ความคิด จิตไม่ว่าง

เห็นทุกอย่าง ไม่ธรรมดา พาหลงใหล

ปรากฏการณ์ ผ่านจิต อาจผิดไป

มองภาพใน ปฏิทิน แล้วจินตนาการ

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ใจ

 


มีหัวใจ เก็บไว้ เพื่อให้รัก

ทั้งมีตัก เก็บไว้ เพื่อให้หนุน

ในใจมี โกดังรัก ซึ่งกักตุน

เอาไว้อุ่น รักเอื้อ เผื่อไว้เติม


แต่หัวใจ ปรากฏ หมดอายุ

บิ่นทะลุ เกินยอม ให้ซ่อมเสริม

ต้องเก็บไว้ ให้ดีดี  ณ ที่เดิม

ไม่ต้องเพิ่ม สายใยรัก มาถักทอ

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

จะฝันถึง


 

คืนนี้ฝัน ถึงใคร ดีไหมหนอ

ฝันไปต่อ ถ้ามีทาง ระหว่างฝัน

กลัวจะฝัน หลงทาง เสียกลางคัน

เพราะไม่มั่น หมายไป ที่ใดเลย


รอมีคน แนะทางให้ ฝันได้ถึง

แต่ทางซึ่ง จะฝันไป ที่ใครเอ่ย

จะฝันจริง หรือหลอก หรืองอกเงย

ค่อยเฉลย ว่าในฝัน เป็นฉันใด

ดอกไม้ สายลม


 


ก็เงียบเหงาเอาการบนลานกว้าง

ยามอ้างว้างห่างมิตรสนิทสนม

ยังดีที่มีดอกไม้และสายลม

ให้ชื่นชมและชื่นใจในบางคราว


ในคราวครั้งเดินทางไปต่างถิ่น

สัมผัสดินฟ้าไกลกับไอหนาว

ไม่ทันคิดฝันเฟื่องเป็นเรื่องราว

นิยายยาวแห่งชีวิตคิดไม่ทัน


จึงเพียงดูสิ่งดีดีที่เห็นได้

จารึกไว้กลางใจไม่ต้องฝัน

จะได้ไม่ฝันค้างแค่กลางคัน

ไม่ต้องปันใจเผื่อเพื่อคนงาม


มองดอกไม้มีสายลมพัดพรมผ่าน

ก็เบิกบานภายในความไหวหวาม

สงบสว่างพร่างพราวจิตคิดคำความ

ก็คล้อยตามสิ่งแวดล้อมที่ย้อมใจ

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ตาม


 บางครั้งปลีกตัวตนพ้นพงหนาม

ห่างไกลความวุ่นวายหลายสถาน

เมื่อสมาธิสติค่อนจะหย่อนยาน

รับสถานการณ์บางเรื่องแล้วเคืองใจ


ภูมิปัญญาไม่กล้าแกร่งเข้มแข็งน้อย

หลายอย่างพลอยสับสนเกินทนไหว

เมื่อบ้านเมืองโดนคนเหิมเติมเชื้อไฟ

เกรงจะไหม้บ้านเมืองเรื่องร้ายแรง


พยายามตามให้ทันการปั่นกระแส

ความจริงแท้หรือเนื้อในมีอะไรแฝง

ทุกเรื่องราวการกระทำย่อมสำแดง

หลายย้อนแย้งบ่งบอกชี้ถึงฝีมือ


ต้องเตรียมตัวแต่ไม่เตรียมใจเผื่อ

เพราะไม่เชื่อเหล่าแสดงแสร้งทำซื่อ

เงียบภายในไยภายนอกออกเลื่องลือ

ควรต้องรื้อสิ่งแหลกเหลวในเร็ววัน

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

พร

 



สิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งดีดีมีอยู่ทั่ว

อยู่ในตัวคนดีดีมีมากหลาย

เมื่อทำดีดีย่อมกันอันตราย

พรมากมายอยู่ที่ตัวและหัวใจ


พรดีดีมีอยู่ตนเป็นคนสร้าง

ไม่ต้องอ้างอาราธนามาจากไหน

"อัตตาหิ อัตตโน นาโถ"ไง

ไม่มีใครสร้างดีชั่วให้ตัวเรา

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เกร็ดกลอน 4 : สั้นๆตามอารมณ์ผู้เขียน

 

สงบนิ่งแต่มิใช่ไม่รู้สึก
ทั้งตื้นลึกรู้เห็นว่าเป็นไฉน
รู้เลือกมืดหรือสว่างเส้นทางไป
ประคองใจให้มั่นคงไม่หลงทาง





สรงน้ำพระที่วัดเขาจัดให้
ชำระใจไปบ้างห่างตัณหา
คงเหลือแต่กิเลสให้เวทนา
มีปัญญาแต่เรื่องเขลาหนักเอาการ






สวัสดีทุกท่านผ่านไอร้อน
แอบซุกซ่อนไอเย็นเล่นซ่อนหา
ใจเย็นร้อนด้อยดีงามตามเวลา
ให้ทนฝ่าทุกสถานการณ์จนผ่านไป







สวัสดีปิยมิตรด้วยจิตคารวะ
ขอพรพระส่องทางสว่าสงบ
ให้ท่านดลแต่สิ่งดีที่พานพบ
ได้มีครบในสิ่งซึ่งท่านพึงมี

หมายเหตุ จะทยอยเติมเรื่อยๆครับ



เกร็ดกลอน 3 : สวัสดีวันใดก็ได้

สุขไม่สุขก็ตนเป็นคนสร้าง
ถ้าอยู่อย่างอยู่เป็นก็เห็นสุข
ไม่สนใจกับการพบพานทุกข์
เสพสนุกตามมีที่ชอบธรรม





เมื่อเป็นคนธรรมดาจิตกล้าแกร่ง
กายแข็งแรงพร้อมสรรพรับร้อนหนาว
เรียนรู้จากประสบการณ์ผ่านเรื่องราว
อยู่ยืนยาวเพราะรู้การอยู่เป็น




ให้สุขกายสบายใจไม่รู้จบ
ให้ได้พบสิ่งดีที่ปรารถนา
ให้หล่อสวยงดงามตามเวลา
ให้สูงค่าแห่งวิถีความดีงาม




.
อยากอะไรก็ขอให้ได้ตามอยาก
เรื่องที่ยากก็ขอให้ง่ายล้นเหลือ
สิ่งที่ขาดก็ขอให้ได้มาเจือ
สิ่งที่เบื่อก็ขอให้ได้ชอบแทน




ให้มีกินมีใช้ห่างไกลโรค
ให้มีโชคมีอำนาจวาสนา
ให้อายุสูงวัยโดยไม่ชรา
ให้หน้าตาเพริศพริ้มเพราะอิ่มบุญ





เพียงความคิดและจิตใจไม่ขุ่นหมอง
เราก็ครองสุขดีงามตามประสา
ทำกายแกร่งและสดใสต้านภัยชรา
เห็นคุณค่าในตัวตนทุกคนมี





ให้ทุกวันเป็นวันดีของชีวิต
ให้ทุกมิตรคือมิตรดีมีความหมาย
ให้ชีวิตปลอดทุกข์มีสุขสบาย
ให้บั้นปลายชีวิตมีแต่ดีงาม

 

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เกร็ดกลอน2 : สวัสดีตามวัน

 

1.สวัสดีวันอาทิตย์


วันอาทิตย์หรือวันไหนใจเปี่ยมสุข

อยู่กับยุคปัจจุบันอันสดใส

ทำชีวิตสดชื่นฉ่ำอ่าอำไพ

ทั้งกายใจเปี่ยมสุขทุกกรณี

2. สวัสดีวันจันทร์


สวัสดีวันจันทร์อันสดใส
ปรุงแต่งใจกายงามสื่อความหมาย
กับชีวิตที่เฉิดฉันผ่องพรรณราย
ดังจันทร์ฉายแสงนวลให้ชวนชม

3. สวัสดีวันอังคาร


สวัสดีวันอังคารสำราญจิต
ท่ามกลางมิตรเพื่อนพ้องผองสหาย
ผู้ปราดเปรื่องเรืองวิชาวัยท้าทาย
สุขภาพกายแข็งแรงแกร่งเกินวัย.


4. สวัสดีวันพุธ


สวัสดีวันพุธบริสุทธิ์รัก
เพื่อทายทักปิยมิตรที่คิดถึง
ด้วยห่วงหาอาทรย้อนคำนึง
เมื่อก่อนซึ่งผูกพันสร้างสรรค์งาน



5. สวัสดีวันพฤหัสบดี


ถ้าแปลความคิดเห็นเป็นคำพูด
ก็พิสูจน์ว่าคิดเห็นเป็นไฉน
หลายสิ่งคิดมิควรเก็บไว้ในใจ
อย่าปล่อยให้บางความคิดปิดใจตน




6. สวัสดีวันศุกร์



จะศุกร์หรือไม่ศุกร์ก็สุขเถิด
เพราะเราเกิดใช่เพื่อทุกข์ยุคไหนไหน
เมื่อกุศลกรรมทำเพื่อสร้างหนทางไว้
ก็ก้าวไปในทางสุข..นะทุกคน



7.สวัสดีวันเสาร์



ให้วันเสาร์มีหลักไว้พักจิต
กรองความคิดดีงามมีความหมาย
ปกป้องกันสรรพขุ่นหลากวุ่นวาย
ปัดอันตรายทุกเหตุแห่งเภทภัย



เกร็ดกลอน1 : สวัสดีตามวัน

 1. สวัสดีวันอาทิตย์


ให้พรในตัวท่านบันดาลสุข
ละวางทุกข์ด้วยปัญญาพาสงบ
เพราะตัวท่านนั้นมีความดีครบ
พ้องพานพบสิ่งดีที่งามพร้อม


2. สวัสดีวันจันทร์


จะวันนี้หรือวันไหนเมื่อใจสงบ
ก็จะพบสิ่งดีงามมีความหมาย
ยิ่งรู้ใช้ธรรมปัญญายิ่งพาสบาย
จะสุขง่ายและสุขแท้แผ่กลางใจ

3. สวัสดีวันอังคาร


ให้อยู่เย็นเป็นสุขไร้ทุกข์โศก
อยู่กับโลกปัจจุบันอย่างหรรษา
เข้าใจโลกเห็นธรรมะ..ตถตา
รู้ธรรมดาทุกสิ่งเป็นเช่นนั้นเอง

4. สวัสดีวันพุธ


ไม่มีใครมอบทุกข์หรือสุขให้
สุขทุกข์ใดเกิดตามทุนบุญกุศล
ก่อกรรมดีย่อมจะมีสิ่งดีดล
ทุกทุกผลเกิดจากเหตุที่เจตนา


5.สวัสดีวันพฤหัสบดี


กุศลกรรมนำทางสว่างสงบ
ให้ได้พบสิ่งดีดีที่เหมาะสม
ไม่เลิศลอยไม่ด้อยค่าอิ่มอารมณ์
เป้นธรรมห่มปกป้องกันผองภัย


6. สวัสดีวันศุกร์


ถ้ารู้ธรรมถึงธรรมก็ล้ำเลิศ
ย่อมก่อเกิดบุญกุศลมากล้นหลาย
ธรรมจะช่วยปกป้องผองอันตราย
เพราะใจกายถึงวัตรปฏิบัติธรรม


7. สวัสดีวันเสาร์


ให้เป็นคนธรรมดาที่มีความสุข
รู้ทันทุกข์และดับได้ไร้ปัญหา
รู้จักเหตุปัจจัยเอื้อเหนืออัตตา
ใช้ปัญญาทางธรรมนำทางชีวิต
 

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เจ็ดสิบแปด




 เป็นเท่าที่เป็นได้พอใจแล้ว

อยู่ในแนวธรรมชาติไม่ผาดโผน

ประสบการณ์ผ่านโลกไม่โชกโชน

ไม่ห้อยโหนอิงกระแสแต่อย่างใด


ใช้ชีวิตคิดว่างามตามประสา

หมั่นพัฒนาความรู้เพื่อสู่สมัย

ปรับตัวตนให้สอดรับกับวันวัย

ตามปัจจัยเอื้อเน้นความเป็นจริง


จึงเป็นอยู่เรียบง่ายแบบสายสงบ

รู้ว่าพบความงมงายในหลายสิ่ง

ที่เป็นเหมือนขยะใจจึงได้ทิ้ง

ทำตนยิ่งอยู่เรียบง่ายสบายดี


บางครั้งคราวมีปัญหาดูสาเหตุ

เป็นเพียงเศษเสี้ยวชีวิตไม่คิดหนี

สุขภาพกายถดถอยทยอยมี

ไม่เกินที่จะรักษาตามอาการ


เจ็ดสิบแปดไม่นับค่อยปรับเพิ่ม

ช่วยคอยเติมตามพลังแห่งสังขาร

หรือนับตอนร้อยกว่ากว่าถ้าอยู่นาน

จะมี"ญาณ" หรือจะ"ยาน"สักปานใด


วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567

การเดินทาง

ได้เดินทางต่างเวลามาถึงนี่
ผ่านสิ่งดีที่งดงามตามสมัย
เห็นหลายสิ่งแปรผันตามวันวัย
เหตุปัจจัยก่อให้เกื้อเหยื่อเวลา

หลายอย่างที่มีทรุดไม่หยุดหย่อน
ที่ผัดผ่อนให้ทรงทรงคงเกินหา
ถึงทุกอย่างจะเคยผ่านการพัฒนา
ก็โรยราและเริ่มร้างต่างตอนปลาย

เป็นธรรมดาสำหรับทุกสรรพสิ่ง
สื่อความจริงที่มิอาจจะคาดหมาย
แม้เป็นเพียงการมองของนอกกาย
แต่ทั้งหลายก็เป็นมาแล้วช้านาน

อาจจะมีหลายอย่างสร้างขึ้นใหม่
ต่างเงื่อนไขต่างเวลามาสืบสาน
เชื่อมรอยต่อคงลำบากยากเอาการ
เพราะรื้อฐานลงใหม่ไม่เหมือนเดิม

ถ้ารู้สร้างควรรู้สานการสืบเนื่อง
เพื่อรวมเรื่องทั้งเก่าดีมีใหม่เสริม
ส่วนใดที่ยังมีพร่องก็ต้องเติม
เป็นการเริ่มด้วยฐานสืบสานกัน

ให้ส่วนที่ทยอยร่วงร่อยหรอ
จนไปต่อก็มิไหวไกลเกินฝัน
เก็บความดีสื่อนิยามความผูกพัน
ก่อนถึงวันหมดงามตามเวลา

ได้โดยสารยานเวลามาถึงนี่
ไม่นับปีที่โดยสารผ่านฟันฝ่า
เก็บทุกประสบการณ์ที่ผ่านมา
ยังไม่ล้าการบันทึกจารึกการณ์

มองด้วยตาและใจ


 ปล่อยให้ตามองไปเหมือนใจเห็น

มองความเป็นจริงแท้แง่ไหนไหน

ทั้งแง่ด้อยและดีงามตามเป็นไป

มองเห็นในทุกเนื้อแท้หลายแง่มุม


หลายสิ่งอาจหลอกทั้งตาใจให้เห็นผิด

ล่อความคิดให้เห็นงามยามตีขลุม

หากตาใจคงคุณค่าสติปัญญาคุม

ไม่ตกหลุมพลางให้ไขว้เขวความ


จึงควรต้องครองตาใจให้หนักแน่น

รู้แยกแก่นเปลือกกะพี้ที่ล้นหลาม

รู้เลือกส่วนต้องการที่เหมาะดีงาม

เมื่ออยู่ท่ามสิ่งหลากหลายที่หมายมอง

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ไม่


 ได้พ้นผ่านการ"ไม่"ในหลายเรื่อง

โดยเหตุเนื่องจากคิดกรองว่าต้อง"ไม่"

หลายปฏิเสธเหตุความคำจะทำไม

เป็นเรื่องใจรู้จำเพาะเหมาะแก่การ


เมื่อการ"ไม่"นั้นมีความดีงามกว่า

เมื่อการ"ไม่"นั้นมีค่ามหาศาล

เมื่อการ"ไม่"ได้ปรุงจริตห่างคิดพาล

เมื่อการ"ไม่"ตัดรำคาญหลายย่านยาว


อย่าถือโทษโกรธด่าถ้าผม"ไม่"

อย่าถามไถ่มากความสื่อสามหาว

ถึงจะ"ไม่"ก็มิ"ไม่"ไปทุกคราว

เจอคำกล่าวที่ต้องใจไม่"ไม่"เลย

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ส่งความคิด


 

ทุกการคิดพิจารณาหาเหตุผล

ย่อมอยู่บนความเป็นจริงสิ่งทั้งผอง

ไม่รวบรัดลากความตามตนมอง

เพราะหลายช่องยังไม่เห็นที่เป็นไป


แต่สำหรับความคิดถึงซึ่งมีบ่อย

คิดแล้วปล่อยลอยซึ้งถึงไหนไหน

ระยะทางแม้ห่างกันถึงทันใด

ความจากใจเชื่อมสู่ให้อยู่ชิด


ส่งความคิดที่เป็นห่วงสู่ปวงสหาย

ให้เสพสบายไร้ทุกข์อย่างสุขสนิท

สมประสงค์ปรารถนาใดได้ดังคิด

ครองชีวิตรุ่งเรืองต่อเนื่องไป

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2567

หลง?


 ยืนรอไฟที่ทางเท้าเพื่อก้าวผ่าน

ไม่ลนลานแต่ลังเลเก้กังไหม

ไม่หลงทางแต่หลงเธอแสร้งเผลอไป

สัญญาณใจจึงเปิดกว้างให้ทางเดิน


ทั้งเตรียมคำคิดถ้อยสำออยอ้าง

แค่ระหว่างไฟสัญญาณไม่นานเนิ่น

มัวสอดส่ายสายตาด้วยพาเพลิน

แต่ไม่เกินการห้ามใจในทุกกรณี


ไปต่างถิ่นกลิ่นเมืองต่างเป็นอย่างเขา

เมืองใหม่เก่าก็งดงามตามวิถี

ทุกคราวมองพบมุมเด่นเห็นส่วนดี

เมื่อเมืองมีจุดขายบอกไม่หลอกตา


หาเรื่องคิดประดิษฐ์คำกำกับภาพ

ให้พอทราบสารพันเรื่องฟันฝ่า

เรื่องหลงเธอเพียงแสร้งสำแดงมา

จริงหลงกว่าหลงใหลเหนือใจมนุษย์