วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สูงวัย


 ทำชีวิตที่สูงวัยเต็มใจสุข

ให้สนุกตามที่ยังมีสิทธิ์

พาตัวตนพ้นสาระขยะพิษ

ทำกายจิตให้รู้อยู่อย่างเย็น


พยายามให้แกร่งกล้าสมอายุ

มองให้ลุสาระธรรมความรู้เห็น

ทุกอย่างเป็นปัญหาธรรมดาเป็น

เลือกประเด็นที่จะหลีกหรือปลีกตัว


พิจารณาสิ่งผูกมัดกำจัดกรอบ

ที่หมายครอบยึดติดให้คิดมั่ว

ตัดทุกเหตุที่ส่งผลให้ตนกลัว

ทุกความชั่วต้องขจัดตัดออกไป


ไม่หวั่นกลัวตัวตนผจญทุกข์

เพียงทันสุขเป็นอยู่มีตรงที่ไหน

ทั้งทางโลกทางธรรมย้ำบอกไว้

จึงต้องไม่ให้ห่างสุขแล้วทุกข์ฟรี


เมื่อสูงวัยใจแกร่งเข้มแข็งกล้า

ไม่นำพาสืบเนื่องเรื่องศักด์ศรี

ผู้สูงวัยใจสว่างสร้างบารมี

ด้วยกรรมดีที่เอื้อเพื่อบุญแท้

ภูเขา -ทะเล


 

บางครั้งเดินคนเดียวเสียวความคิด

กลัวแผลงฤทธิ์พาใจให้ไขว้เขว

เดินเหนือเขื่อนแต่พาออกนอกทะเล

เพราะความเหว่หว้าหวิวปลิวลอยไป


ทำปัญญาหล่นหายไปในเกลียวคลื่น

กับเสียงครืนทะเลครางอย่างหมองไม้

ได้กลับมาเพราะคนงามตามเหนี่ยวไว้

แล้วปล่อยให้เดินเปลี่ยวอย่างเดียวดาย

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

หลงรูป


 เด็ดดอกไม้ ด้วยสายตา เอามาให้

พร้อมหัวใจ จางจาง กลางรอยฝัน

ใช้น้ำค้าง ต่างดอกรัก ปักแจกัน

เอาลมฟั่น เกลียวใจ มิให้คลาย


เพียงแอบมอง เหมือนว่า จะกล้ารัก

ส่งใจทัก คนงาม สื่อความหมาย

จะค่ำเช้า กลางวันเย็น ไม่เว้นวาย

เพียงทักทาย ด้วยจิต คิดไปไกล


มองด้วย ความคิด จิตไม่ว่าง

เห็นทุกอย่าง ไม่ธรรมดา พาหลงใหล

ปรากฏการณ์ ผ่านจิต อาจผิดไป

มองภาพใน ปฏิทิน แล้วจินตนาการ

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ใจ

 


มีหัวใจ เก็บไว้ เพื่อให้รัก

ทั้งมีตัก เก็บไว้ เพื่อให้หนุน

ในใจมี โกดังรัก ซึ่งกักตุน

เอาไว้อุ่น รักเอื้อ เผื่อไว้เติม


แต่หัวใจ ปรากฏ หมดอายุ

บิ่นทะลุ เกินยอม ให้ซ่อมเสริม

ต้องเก็บไว้ ให้ดีดี  ณ ที่เดิม

ไม่ต้องเพิ่ม สายใยรัก มาถักทอ

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

จะฝันถึง


 

คืนนี้ฝัน ถึงใคร ดีไหมหนอ

ฝันไปต่อ ถ้ามีทาง ระหว่างฝัน

กลัวจะฝัน หลงทาง เสียกลางคัน

เพราะไม่มั่น หมายไป ที่ใดเลย


รอมีคน แนะทางให้ ฝันได้ถึง

แต่ทางซึ่ง จะฝันไป ที่ใครเอ่ย

จะฝันจริง หรือหลอก หรืองอกเงย

ค่อยเฉลย ว่าในฝัน เป็นฉันใด

ดอกไม้ สายลม


 


ก็เงียบเหงาเอาการบนลานกว้าง

ยามอ้างว้างห่างมิตรสนิทสนม

ยังดีที่มีดอกไม้และสายลม

ให้ชื่นชมและชื่นใจในบางคราว


ในคราวครั้งเดินทางไปต่างถิ่น

สัมผัสดินฟ้าไกลกับไอหนาว

ไม่ทันคิดฝันเฟื่องเป็นเรื่องราว

นิยายยาวแห่งชีวิตคิดไม่ทัน


จึงเพียงดูสิ่งดีดีที่เห็นได้

จารึกไว้กลางใจไม่ต้องฝัน

จะได้ไม่ฝันค้างแค่กลางคัน

ไม่ต้องปันใจเผื่อเพื่อคนงาม


มองดอกไม้มีสายลมพัดพรมผ่าน

ก็เบิกบานภายในความไหวหวาม

สงบสว่างพร่างพราวจิตคิดคำความ

ก็คล้อยตามสิ่งแวดล้อมที่ย้อมใจ

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ตาม


 บางครั้งปลีกตัวตนพ้นพงหนาม

ห่างไกลความวุ่นวายหลายสถาน

เมื่อสมาธิสติค่อนจะหย่อนยาน

รับสถานการณ์บางเรื่องแล้วเคืองใจ


ภูมิปัญญาไม่กล้าแกร่งเข้มแข็งน้อย

หลายอย่างพลอยสับสนเกินทนไหว

เมื่อบ้านเมืองโดนคนเหิมเติมเชื้อไฟ

เกรงจะไหม้บ้านเมืองเรื่องร้ายแรง


พยายามตามให้ทันการปั่นกระแส

ความจริงแท้หรือเนื้อในมีอะไรแฝง

ทุกเรื่องราวการกระทำย่อมสำแดง

หลายย้อนแย้งบ่งบอกชี้ถึงฝีมือ


ต้องเตรียมตัวแต่ไม่เตรียมใจเผื่อ

เพราะไม่เชื่อเหล่าแสดงแสร้งทำซื่อ

เงียบภายในไยภายนอกออกเลื่องลือ

ควรต้องรื้อสิ่งแหลกเหลวในเร็ววัน

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

พร

 



สิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งดีดีมีอยู่ทั่ว

อยู่ในตัวคนดีดีมีมากหลาย

เมื่อทำดีดีย่อมกันอันตราย

พรมากมายอยู่ที่ตัวและหัวใจ


พรดีดีมีอยู่ตนเป็นคนสร้าง

ไม่ต้องอ้างอาราธนามาจากไหน

"อัตตาหิ อัตตโน นาโถ"ไง

ไม่มีใครสร้างดีชั่วให้ตัวเรา

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เกร็ดกลอน 4 : สั้นๆตามอารมณ์ผู้เขียน

 

สงบนิ่งแต่มิใช่ไม่รู้สึก
ทั้งตื้นลึกรู้เห็นว่าเป็นไฉน
รู้เลือกมืดหรือสว่างเส้นทางไป
ประคองใจให้มั่นคงไม่หลงทาง





สรงน้ำพระที่วัดเขาจัดให้
ชำระใจไปบ้างห่างตัณหา
คงเหลือแต่กิเลสให้เวทนา
มีปัญญาแต่เรื่องเขลาหนักเอาการ






สวัสดีทุกท่านผ่านไอร้อน
แอบซุกซ่อนไอเย็นเล่นซ่อนหา
ใจเย็นร้อนด้อยดีงามตามเวลา
ให้ทนฝ่าทุกสถานการณ์จนผ่านไป







สวัสดีปิยมิตรด้วยจิตคารวะ
ขอพรพระส่องทางสว่าสงบ
ให้ท่านดลแต่สิ่งดีที่พานพบ
ได้มีครบในสิ่งซึ่งท่านพึงมี

หมายเหตุ จะทยอยเติมเรื่อยๆครับ



เกร็ดกลอน 3 : สวัสดีวันใดก็ได้

สุขไม่สุขก็ตนเป็นคนสร้าง
ถ้าอยู่อย่างอยู่เป็นก็เห็นสุข
ไม่สนใจกับการพบพานทุกข์
เสพสนุกตามมีที่ชอบธรรม





เมื่อเป็นคนธรรมดาจิตกล้าแกร่ง
กายแข็งแรงพร้อมสรรพรับร้อนหนาว
เรียนรู้จากประสบการณ์ผ่านเรื่องราว
อยู่ยืนยาวเพราะรู้การอยู่เป็น




ให้สุขกายสบายใจไม่รู้จบ
ให้ได้พบสิ่งดีที่ปรารถนา
ให้หล่อสวยงดงามตามเวลา
ให้สูงค่าแห่งวิถีความดีงาม




.
อยากอะไรก็ขอให้ได้ตามอยาก
เรื่องที่ยากก็ขอให้ง่ายล้นเหลือ
สิ่งที่ขาดก็ขอให้ได้มาเจือ
สิ่งที่เบื่อก็ขอให้ได้ชอบแทน




ให้มีกินมีใช้ห่างไกลโรค
ให้มีโชคมีอำนาจวาสนา
ให้อายุสูงวัยโดยไม่ชรา
ให้หน้าตาเพริศพริ้มเพราะอิ่มบุญ





เพียงความคิดและจิตใจไม่ขุ่นหมอง
เราก็ครองสุขดีงามตามประสา
ทำกายแกร่งและสดใสต้านภัยชรา
เห็นคุณค่าในตัวตนทุกคนมี





ให้ทุกวันเป็นวันดีของชีวิต
ให้ทุกมิตรคือมิตรดีมีความหมาย
ให้ชีวิตปลอดทุกข์มีสุขสบาย
ให้บั้นปลายชีวิตมีแต่ดีงาม

 

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เกร็ดกลอน2 : สวัสดีตามวัน

 

1.สวัสดีวันอาทิตย์


วันอาทิตย์หรือวันไหนใจเปี่ยมสุข

อยู่กับยุคปัจจุบันอันสดใส

ทำชีวิตสดชื่นฉ่ำอ่าอำไพ

ทั้งกายใจเปี่ยมสุขทุกกรณี

2. สวัสดีวันจันทร์


สวัสดีวันจันทร์อันสดใส
ปรุงแต่งใจกายงามสื่อความหมาย
กับชีวิตที่เฉิดฉันผ่องพรรณราย
ดังจันทร์ฉายแสงนวลให้ชวนชม

3. สวัสดีวันอังคาร


สวัสดีวันอังคารสำราญจิต
ท่ามกลางมิตรเพื่อนพ้องผองสหาย
ผู้ปราดเปรื่องเรืองวิชาวัยท้าทาย
สุขภาพกายแข็งแรงแกร่งเกินวัย.


4. สวัสดีวันพุธ


สวัสดีวันพุธบริสุทธิ์รัก
เพื่อทายทักปิยมิตรที่คิดถึง
ด้วยห่วงหาอาทรย้อนคำนึง
เมื่อก่อนซึ่งผูกพันสร้างสรรค์งาน



5. สวัสดีวันพฤหัสบดี


ถ้าแปลความคิดเห็นเป็นคำพูด
ก็พิสูจน์ว่าคิดเห็นเป็นไฉน
หลายสิ่งคิดมิควรเก็บไว้ในใจ
อย่าปล่อยให้บางความคิดปิดใจตน




6. สวัสดีวันศุกร์



จะศุกร์หรือไม่ศุกร์ก็สุขเถิด
เพราะเราเกิดใช่เพื่อทุกข์ยุคไหนไหน
เมื่อกุศลกรรมทำเพื่อสร้างหนทางไว้
ก็ก้าวไปในทางสุข..นะทุกคน



7.สวัสดีวันเสาร์



ให้วันเสาร์มีหลักไว้พักจิต
กรองความคิดดีงามมีความหมาย
ปกป้องกันสรรพขุ่นหลากวุ่นวาย
ปัดอันตรายทุกเหตุแห่งเภทภัย



เกร็ดกลอน1 : สวัสดีตามวัน

 1. สวัสดีวันอาทิตย์


ให้พรในตัวท่านบันดาลสุข
ละวางทุกข์ด้วยปัญญาพาสงบ
เพราะตัวท่านนั้นมีความดีครบ
พ้องพานพบสิ่งดีที่งามพร้อม


2. สวัสดีวันจันทร์


จะวันนี้หรือวันไหนเมื่อใจสงบ
ก็จะพบสิ่งดีงามมีความหมาย
ยิ่งรู้ใช้ธรรมปัญญายิ่งพาสบาย
จะสุขง่ายและสุขแท้แผ่กลางใจ

3. สวัสดีวันอังคาร


ให้อยู่เย็นเป็นสุขไร้ทุกข์โศก
อยู่กับโลกปัจจุบันอย่างหรรษา
เข้าใจโลกเห็นธรรมะ..ตถตา
รู้ธรรมดาทุกสิ่งเป็นเช่นนั้นเอง

4. สวัสดีวันพุธ


ไม่มีใครมอบทุกข์หรือสุขให้
สุขทุกข์ใดเกิดตามทุนบุญกุศล
ก่อกรรมดีย่อมจะมีสิ่งดีดล
ทุกทุกผลเกิดจากเหตุที่เจตนา


5.สวัสดีวันพฤหัสบดี


กุศลกรรมนำทางสว่างสงบ
ให้ได้พบสิ่งดีดีที่เหมาะสม
ไม่เลิศลอยไม่ด้อยค่าอิ่มอารมณ์
เป้นธรรมห่มปกป้องกันผองภัย


6. สวัสดีวันศุกร์


ถ้ารู้ธรรมถึงธรรมก็ล้ำเลิศ
ย่อมก่อเกิดบุญกุศลมากล้นหลาย
ธรรมจะช่วยปกป้องผองอันตราย
เพราะใจกายถึงวัตรปฏิบัติธรรม


7. สวัสดีวันเสาร์


ให้เป็นคนธรรมดาที่มีความสุข
รู้ทันทุกข์และดับได้ไร้ปัญหา
รู้จักเหตุปัจจัยเอื้อเหนืออัตตา
ใช้ปัญญาทางธรรมนำทางชีวิต
 

วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เจ็ดสิบแปด




 เป็นเท่าที่เป็นได้พอใจแล้ว

อยู่ในแนวธรรมชาติไม่ผาดโผน

ประสบการณ์ผ่านโลกไม่โชกโชน

ไม่ห้อยโหนอิงกระแสแต่อย่างใด


ใช้ชีวิตคิดว่างามตามประสา

หมั่นพัฒนาความรู้เพื่อสู่สมัย

ปรับตัวตนให้สอดรับกับวันวัย

ตามปัจจัยเอื้อเน้นความเป็นจริง


จึงเป็นอยู่เรียบง่ายแบบสายสงบ

รู้ว่าพบความงมงายในหลายสิ่ง

ที่เป็นเหมือนขยะใจจึงได้ทิ้ง

ทำตนยิ่งอยู่เรียบง่ายสบายดี


บางครั้งคราวมีปัญหาดูสาเหตุ

เป็นเพียงเศษเสี้ยวชีวิตไม่คิดหนี

สุขภาพกายถดถอยทยอยมี

ไม่เกินที่จะรักษาตามอาการ


เจ็ดสิบแปดไม่นับค่อยปรับเพิ่ม

ช่วยคอยเติมตามพลังแห่งสังขาร

หรือนับตอนร้อยกว่ากว่าถ้าอยู่นาน

จะมี"ญาณ" หรือจะ"ยาน"สักปานใด


วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567

การเดินทาง

ได้เดินทางต่างเวลามาถึงนี่
ผ่านสิ่งดีที่งดงามตามสมัย
เห็นหลายสิ่งแปรผันตามวันวัย
เหตุปัจจัยก่อให้เกื้อเหยื่อเวลา

หลายอย่างที่มีทรุดไม่หยุดหย่อน
ที่ผัดผ่อนให้ทรงทรงคงเกินหา
ถึงทุกอย่างจะเคยผ่านการพัฒนา
ก็โรยราและเริ่มร้างต่างตอนปลาย

เป็นธรรมดาสำหรับทุกสรรพสิ่ง
สื่อความจริงที่มิอาจจะคาดหมาย
แม้เป็นเพียงการมองของนอกกาย
แต่ทั้งหลายก็เป็นมาแล้วช้านาน

อาจจะมีหลายอย่างสร้างขึ้นใหม่
ต่างเงื่อนไขต่างเวลามาสืบสาน
เชื่อมรอยต่อคงลำบากยากเอาการ
เพราะรื้อฐานลงใหม่ไม่เหมือนเดิม

ถ้ารู้สร้างควรรู้สานการสืบเนื่อง
เพื่อรวมเรื่องทั้งเก่าดีมีใหม่เสริม
ส่วนใดที่ยังมีพร่องก็ต้องเติม
เป็นการเริ่มด้วยฐานสืบสานกัน

ให้ส่วนที่ทยอยร่วงร่อยหรอ
จนไปต่อก็มิไหวไกลเกินฝัน
เก็บความดีสื่อนิยามความผูกพัน
ก่อนถึงวันหมดงามตามเวลา

ได้โดยสารยานเวลามาถึงนี่
ไม่นับปีที่โดยสารผ่านฟันฝ่า
เก็บทุกประสบการณ์ที่ผ่านมา
ยังไม่ล้าการบันทึกจารึกการณ์

มองด้วยตาและใจ


 ปล่อยให้ตามองไปเหมือนใจเห็น

มองความเป็นจริงแท้แง่ไหนไหน

ทั้งแง่ด้อยและดีงามตามเป็นไป

มองเห็นในทุกเนื้อแท้หลายแง่มุม


หลายสิ่งอาจหลอกทั้งตาใจให้เห็นผิด

ล่อความคิดให้เห็นงามยามตีขลุม

หากตาใจคงคุณค่าสติปัญญาคุม

ไม่ตกหลุมพลางให้ไขว้เขวความ


จึงควรต้องครองตาใจให้หนักแน่น

รู้แยกแก่นเปลือกกะพี้ที่ล้นหลาม

รู้เลือกส่วนต้องการที่เหมาะดีงาม

เมื่ออยู่ท่ามสิ่งหลากหลายที่หมายมอง

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ไม่


 ได้พ้นผ่านการ"ไม่"ในหลายเรื่อง

โดยเหตุเนื่องจากคิดกรองว่าต้อง"ไม่"

หลายปฏิเสธเหตุความคำจะทำไม

เป็นเรื่องใจรู้จำเพาะเหมาะแก่การ


เมื่อการ"ไม่"นั้นมีความดีงามกว่า

เมื่อการ"ไม่"นั้นมีค่ามหาศาล

เมื่อการ"ไม่"ได้ปรุงจริตห่างคิดพาล

เมื่อการ"ไม่"ตัดรำคาญหลายย่านยาว


อย่าถือโทษโกรธด่าถ้าผม"ไม่"

อย่าถามไถ่มากความสื่อสามหาว

ถึงจะ"ไม่"ก็มิ"ไม่"ไปทุกคราว

เจอคำกล่าวที่ต้องใจไม่"ไม่"เลย

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ส่งความคิด


 

ทุกการคิดพิจารณาหาเหตุผล

ย่อมอยู่บนความเป็นจริงสิ่งทั้งผอง

ไม่รวบรัดลากความตามตนมอง

เพราะหลายช่องยังไม่เห็นที่เป็นไป


แต่สำหรับความคิดถึงซึ่งมีบ่อย

คิดแล้วปล่อยลอยซึ้งถึงไหนไหน

ระยะทางแม้ห่างกันถึงทันใด

ความจากใจเชื่อมสู่ให้อยู่ชิด


ส่งความคิดที่เป็นห่วงสู่ปวงสหาย

ให้เสพสบายไร้ทุกข์อย่างสุขสนิท

สมประสงค์ปรารถนาใดได้ดังคิด

ครองชีวิตรุ่งเรืองต่อเนื่องไป

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2567

หลง?


 ยืนรอไฟที่ทางเท้าเพื่อก้าวผ่าน

ไม่ลนลานแต่ลังเลเก้กังไหม

ไม่หลงทางแต่หลงเธอแสร้งเผลอไป

สัญญาณใจจึงเปิดกว้างให้ทางเดิน


ทั้งเตรียมคำคิดถ้อยสำออยอ้าง

แค่ระหว่างไฟสัญญาณไม่นานเนิ่น

มัวสอดส่ายสายตาด้วยพาเพลิน

แต่ไม่เกินการห้ามใจในทุกกรณี


ไปต่างถิ่นกลิ่นเมืองต่างเป็นอย่างเขา

เมืองใหม่เก่าก็งดงามตามวิถี

ทุกคราวมองพบมุมเด่นเห็นส่วนดี

เมื่อเมืองมีจุดขายบอกไม่หลอกตา


หาเรื่องคิดประดิษฐ์คำกำกับภาพ

ให้พอทราบสารพันเรื่องฟันฝ่า

เรื่องหลงเธอเพียงแสร้งสำแดงมา

จริงหลงกว่าหลงใหลเหนือใจมนุษย์

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ผจญภัย(ก่อน)วัยชรา


 

หลายครั้งคราวมิรู้ว่ากล้าหรือขลาด

เหมือนผงาดเผยอหน้าท้าลมหนาว

เกล็ดหิมะคละเคล้าฝนหล่นพร่างพราว

เกือบทุกก้าวยะเยือกเย็นใจเต้นแรง


พาสองเท้าเดินไปหน้าขาสั่นสั่น

ยิ่งขึ้นขั้นบันไดรายอยู่หลายแห่ง

ความมุ่งมั่นทำฮึกเหิมเริ่มสำแดง

แต่ต้องแสร้งว่ายังไหวยังไม่กลัว


ไม่ได้แก่แต่ทว่าอายุมาก

ยังพอลากสังขารผ่านได้ทั่ว

ทั้งทางตรงเนินบันไดผ่านได้ชัวร์

อาจลืมตัวลืมวัยบ้างในบางครั้ง


จึงรู้ตัวยังครองตนเป็นคนกล้า

เดินทางฝ่ากันดารได้ดังใจหวัง

แม้บางส่วนสังขารพร่องที่ต้องระวัง

ทุกอย่างยังไม่ถดถอยเรียบร้อยดี


ที่ว่าง


 

จัดที่ว่างข้างใจไว้คอยท่า

เผื่อใครมานั่งชิดสนิทสนม

ได้คิดร้อยถ้อยคำลำนำคม

สร้างอารมณ์ชื่นฉ่ำด้วยคำกลอน


ถึงมิเป็นเช่นกวีที่ยิ่งใหญ่

แต่เต็มใจเป็นสถานลานอักษร

ได้ร่วมคิดคำผสานการอาทร

เพื่อสร้างพรให้ผูกพันร่วมฝันเดียว

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ทางแยก





 ทางแยก


เมื่อทางแยกมีไว้ให้เลือกผ่าน

ใครคิดอ่านอย่างไรตามใจเขา

เราจะเดินเส้นทางเหมาะอย่างเรา

รู้ทันเท่าที่จะไปในเส้นทาง


บนเส้นทางชีวิตที่มีหลายแยก

ก็ไม่แปลกที่มักอุปสรรคขวาง

ถ้าชีวิตไม่ใจเสาะหรือเปราะบาง

ก็ก้าวย่างอย่างกล้าและท้าทาย


เมื่อชีวิตเลือกทางอย่างเหมาะสม

รู้ผ่านปมเพื่อก้าวรุดถึงจุดหมาย

รู้จักครองสติปัญญาฝ่าอันตราย

จะยากง่ายก็เป็นไปตามใจเรา

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2567

สะพาน


 มีสะพานทอดไว้เพื่อให้ข้าม

ได้พ้นความสมมุติมนุษย์หวง

ตัดตัณหากิเลสทุกเหตุปวง

ได้ก้าวล่วงภัยจริตจิตต้องการ


จะก้าวข้ามแต่พาบรรดากิเลส

ไม่ละเหตุแห่งผลเพื่อพ้นผ่าน

ต่อให้มีสะพานดีกี่สะพาน

ก็คงนานกว่าจะข้ามได้ตามคิด

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

โดนแย่ง

 


ยังอยู่ดีมีสุขทุกข์นิดนิด

อุณหภูมิพิษร้อนแรงมาแย่งสุข

ทั้งลมแดดแผดเผารุมเร้ารุก

ไม่สนุกทั้งใจกายร้อนร้ายแรง


รู้ว่าเป็นธรรมชาติไม่อาจฝืน

ที่หยิบยื่นแรงร้อนไม่ซ่อนแฝง

ไม่สงสารลูกนกกาตาแดงแดง

ก็อย่าแกล้งหนุ่มน้อยให้พลอยเกรียม

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

หายใจทิ้งบ้าง




 ยืดเวลาเพื่อหายใจทิ้งไปบ้าง

ปล่อยละวางบางสิ่งเพื่อนิ่งเฉย

หลายสิ่งที่น่าจะควรละเลย

ที่คุ้นเคยก็ควรห่างแรมร้างกัน


หยุดปล่อยใจไม่เก็บความเจ็บช้ำ

รู้หลาบจำสรรพสิ่งจริงหรือฝัน

ลดเรื่องราวที่กร้าวกร้านมานานวัน

เพื่อฝ่าฟันพ้นเรื่องร้ายรายรอบตัว


ได้มองเหมาะเฉพาะสิ่งเป็นจริงแท้

ตัดตัวแปรมากมายหลากหลายขั้ว

ที่กลับกลอกหลอกคนเราให้เมามัว

เนื้อในชั่วสร้างภาพนอกดูออกดี


หายใจทิ้งไปบ้างบางจังหวะ

อยู่สมถะแต่รู้ทัน โน่น นั่น นี่

อยู่เงียบเงียบแต่พลังนั้นยังมี

รู้บ่งชี้ดีงามด้อยถ่อยเถื่อนทราม


วันพุธที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2567

รูปเสียงกลิ่นรสสัมผัส


 ภาพคือภาพผ่านมาให้ตาเห็น

แสดงเป็นนิยามสื่อความหมาย

บอกแง่งามความดีตัวหรือชั่วร้าย

จำหลักลายให้เห็นความเป็นไป


เสียงเป็นเสียงจากวาจามาสู่โสต

เอื้อประโยชน์หากความจริงตามไข

ถ้าความเพี้ยนเปลี่ยนค่าสาระใด

เสียงก็ไม่ควรฟังความตามถ้อยคำ


กลิ่นทั้งหลายที่โชยมาสบนาสิก

ระรื่นริกหากกลิ่นหอมย่อมชื่นฉ่ำ

หากกลิ่นไม่พึงประสงค์บ่งบอกนำ

กลิ่นจะทำให้คนหน่ายห่างหายพ้น


รสสารพัดสัมผัสลิ้นยินดีรส

เมื่อปรากฏอร่อยดีย่อมมีผล

ทั้งถูกปากและถูกใจในผู้คน

แต่รสปนแปลกรสก็หมดดี


ในบางทีก็ดีงามยามสัมผัส

เหมือนผูกมัดกายใจในทุกที่

ให้หลงปลื้มลืมไปว่าปัญญามี

ความจริงชี้ย้อนในใจกายตา


ทั้งสัมผัสรสกลิ่นยินเสียงภาพ

ถ้าเพียงทราบว่าเป็นเช่นนั้นหนา

หลายสิ่งอาจดีงามตามเวลา

แต่คุณค่าด้อยหรือดีที่เนื้อใน

วันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2567

เก่าใหม่ล้วนสมมุติ


 จะเก่าหรือจะใหม่ในสมมุติ

มิใช่จุดที่จักชีพหักเห

ทุกสิ่งยังอยู่ยืนเป็นพื้นเพ

ทั้งวันเวลาก็เป็นเช่นเดิมเดิม


จะเริ่มต้นหรือวางละราคะจริต

ปรุงกายจิตก็ไม่ต้องฉลองเฉลิม

เมื่อรู้มีส่วนพร่องก็ต้องเติม

ทุกอย่างเริ่มไม่ต้องขอรอต้นปี