วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

หมายเหตุแห่งวัย : จาก77 สู่ 78






 ผ่านมาได้อีกปียังดีอยู่

ยังเห็นรู้ดีงามตามวิถี

ยังได้สร้างสิ่งเกื้อเพื่อสิ่งดี

เพิ่มทวีกุศลกรรมกับธรรมแท้


วันเวลาที่เคลื่อนเตือนให้คิด

ที่พลาดผิดให้เวลารักษาแผล

ถึงเข้มแข็งก็มีซ่อนความอ่อนแอ

เคยยอมแพ้และท้อก็หลายคราว


เพราะมัวหลงด้วยเหตุกิเลสตัณหา

หลงไขว่คว้ากอบเก็บจนเหน็บหนาว

เมื่อปัญญาเกิดก็เห็นเป็นเรื่องราว

นิยายยาวแห่งชีวิตเป็นปริศนาธรรม

วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เดินหน้า มองหลัง


 หลายหลายครั้งตั้งใจเดินไปหน้า

แต่เหมือนว่ายังคิดเรื่องเบื้องหนหลัง

เพราะอดีตเริ่มเสริมสร้างทางแห่งพลัง

ก่อความหวังให้มาถึงซึ่งบัจจุบัน


อดีตเป็นบทเรียนพากเพียรพบ

ให้ประสบทางทุกแง่ที่แปรผัน

สร้างเสริมชีพให้มีค่ามามากครัน

ทำความฝันให้เป็นจริงในสิ่งควร


มองความหลังเพื่อก้าวไปในจุดหมาย

หลบอันตรายหนามไหน่ใดขีดข่วน

เมื่อรู้ทางจังหวะที่เห็นดีล้วน

อาจสู้สวนหรือหลีกหลบสงบความ

วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ไปวัดให้ถึงวัด


 

เมื่อไปวัด พร้อมพาใจ ไปถึงวัด

และได้ตัด กิเลสบ้าง แม้บางส่วน

สงบจิต คิดทางดี  ที่เหมาะควร

ได้ทบทวน ทุกกิจกรรม ที่ทำมา


พิจารณา ลดเลิกละ สิ่งอกุศล

นำพาตน ถึงธรรมะ ในพระศาสนา

เป็นฆราวาส ปุถุชน คนธรรมดา

ที่ปรารถนา ถึงธรรมแท้ ทุกแง่ธรรม

วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ทักทาย ให้กำลังใจ


 

ใช่โบกมือ สื่อความว่า ลาก่อนนะ

โบกเพื่อจะ ทักทายกัน อย่าหวั่นไหว

เธออยู่นั่น ฉันอยู่นี่ มิเป็นไร

ส่งแรงใจ ให้กันบ้าง บางเวลา


เพียงความคิด จิตใจดี มีความรัก

หมั่นตระหนัก รู้คุณชาติ ศาสนา

จงรักใน พระมหากษัตริย์ ด้วยศรัทธา

จึงโบก(มือ)มา เป็นแรงใจ ให้ทุกคน

วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

มอง

 


ถึงสองตาเพ่งมองสองตาเห็น

ทุกสิ่งเป็นเช่นไรเห็นไม่หมด

ในบางสิ่งบางวิถีมีเคี้ยวคด

บ้างปรากฏให้เห็นไม่เป็นจริง


เห็นแต่งามตามไม่ทันเขาปั้นแต่ง

ให้สำแดงเป็นอยู่มีดีทุกสิ่ง

ปรับคำรามให้เสนาะฟังเพราะพริ้ง

กลับกลอกกลิ้งมิให้ใครไล่ทัน


จึงตาหูต้องรู้เห็นไม่เน้นกระแส

รู้เนื้อแท้แห่งความจริงไม่อิงฝัน

ใช้ปัญญาสติพินิจคิดหลายชั้น

เห็นสิ่งนั้นโดยตริตรองอย่างถ่องแท้

วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เขียวจี๊ด


 เป็นเรื่องของ สีเขียว ที่เปรี้ยวจี๊ด

น่าใช้กรีด ขย่มปวง ลับลวงหวาน

ใช้ความเปรี้ยว ให้เป็น เช่นปราการ

ป้องกันมาร มวลอมิตร ที่คิดร้าย


หลายความคิด ที่ซับซ้อน ต้องย้อนคิด

เพราะมีผิด เหนือกว่าผิด วิปริตหลาย

ความชั่วดี ที่เหลื่อมกัน ล้วนอันตราย

โดยเป้าหมาย คลุมเคลือ ปิดเนื้อแท้


มิใช่ใจ จะจำยอม เป็นด้อมสี

แยกด้อยดี จึงเห็นควร สวนกระแส

เมื่อรักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ประหวัดแด

ถ้าไม่แก้ ก็วิกฤติ พิษการเมือง

วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

มิใช่อยู่อยู่ก็ชูดอก


 เพราะมิใช่ อยู่อยู่ ก็ชูดอก

ต้นรากงอก จากดิน ถิ่นไหนไหน

เริ่มจากอ่อน เจริญแก่ แผ่กิ่งใบ

กว่าจะได้ ชูช่อดอก ออกงามตา


ทุกกรณี มีเรื่องราว ให้กล่าวถึง

เบื้องหลังซึ่ง สื่อความ ให้ถามหา

กับเรื่องราว ทั้งร้ายดี ที่เป็นมา

มิใช่ว่า เกิดมามี แล้วดีเลย


สรรพสิ่ง ทั้งร้ายดี มีกำพืด

ที่โยงยืด สืบสายมา อาจผ่าเผย

ทุกพัฒนา สื่อบอก ความงอกเงย

ความเฉลย ด้อยหรือดี ที่พฤติกรรม


วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

วันเกิด..วันแก่



 

 


วันเกิดบอก วันเวลา ว่าแก่เพิ่ม

ไม่ต้องเติม คำอวย ช่วยเสริมส่ง

เพราะวันนี้ คงมีแต่ แก่ชราลง

ต้องรู้ปลง เลขวัยย้ำ บอกธรรมดา


เป็นอยู่มี อย่างที่เป็น ที่เห็นได้

เงื่อนไขใต้ โลกธรรม นำวาสนา

และเข้าใจ ไตรลักษณ์ ประจักษ์มา

ย่อมเหนือค่า กว่าพรใด ที่ใครอวย


หมายเหตุ:เดือนกรกฎาคม เป็นเดือนเกิดของผู้เขียน แต่ไม่บอกว่าวันไหน

วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เป็นสุขได้ทุกข์ที่


 

เราอาจหาความสุขได้ทุกที่

เป็นอยู่มีธรรมดาก็ผาสุก

เมื่อรู้จักวางบ้างก็ห่างทุกข์

เดินตามยุคตามสมัยไม่กังวล


เมื่อคิดดีทำดีเหมือนที่คิด

กุศลจิตส่องทางสร้างกุศล

จิตสงบย่อมผ่อนลดร้อนรน

ก็ครองคนสงบสุขไม่ทุกข์ใด

วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

หิว




 ยามกายหิว ก็พึ่งพา เรื่องอาหาร

รับประทาน เพื่อประทัง ยังชีพไหว

กินแค่อิ่ม เพื่อพลังพอ ก้าวต่อไป

โดยจะไม่ กินเพลิน เกินจำเป็น


ยามใจหิว กระหาย มักหลายเรื่อง

สิ่งสืบเนื่อง ความอยาก ยากรู้เห็น

เพราะใจอยาก ไม่จบ ครบประเด็น

ต้องลำเค็ญ หากสนอง ใจต้องการ